บทความ

แชร์ประสบการณ์กู้ Refinance ของคนที่มีประวัติติดบูโรครับ กระทู้คำถาม

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ให้คำแนะนำและประสบการณ์การ Refinance ที่แบ่งปันจากทุก ๆ ท่านนะครับ วันนี้ผมขอแชร์ประสบการณ์ของผมบ้างนะครับ ผมได้กู้เงินซื้อคอนโดไว้กับธนาคารทหารไทยเมื่อ 4 ปีที่แล้วครับ มีประวัติชำระล่าช้า 120 วัน 2 ใบ แต่ปิดยอดไปแล้ว 7 เดือน มียื่นปรับโครงสร้างหนี้กับบัตรเครดิต 1 ใบ โดยปิดบัตรแล้วจ่าย 5% มีพักชำระหนี้ช่วงน้ำท่วม 3 เดือนตามนโยบายของธนาคาร โดยยื่นไป 3 ธนาคารครับ 1. ธนาคารสีเหลือง ปฏิเสธ Y.Y 2.ธนาคารสีม่วง ผ่านการอนุมัติแต่ ผมปฏิเสธไปเพราะว่าดอกแพงไปนิดและการบริการ 3. ธอส อนุมัติ 100% ของราคาประเมิน + กู้ประกันเงินกู้  โดยใช้สวัสดิการนะครับ ขอแชร์อันนี้นะครับ ส่วนธนาคารสีชมพู นำเอกสารไปคุยแล้วบอกรายละเอียดทั้งหมด แล้วครับเจ้าหน้าที่โทรไปคุยกับฝ่ายสินเชื่อเค้าบอกว่าไม่ผ่านครับเพราะปิดยอดไม่ถึง 1 ปี ข้างล่างเป็นรายละเอียดของผมกะ ธอส ครับ 01/03/56 ธอส ผมยื่นกู้ไปที่สาขาธรรมดาไม่ได้ไปที่สำนักงานใหญ่นะครับ โดยเอาเอกสารทั้งหมดไปคุยกับเจ้าหน้าที่ครับโดยผมนำเอกสารตรวจสอบเครดิตบูโร ไปด้วยครับ แล้วก็ชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ฟังครับโดยเจ้าหน้าที่ขอเอก

พายุนรกทวงหนี้--1

ตอนที่ 5 พายุนรกทวงหนี้--1 ตอนนั้นตัดสินใจใช้ Second way out ในช่วงแรกแต่มาต่อยอดใช้วิธีเอา First way out ขออธิบายก่อนว่าวิธีการของแต่ละคนมันแตกต่างกันออกไปของผมใช้วิธีการแบบผสม คือใช้ทางเลือกที่ 2และทางเลือกที่ 1 คู่กันหยุดจ่ายปิดบัญชีทีละตัว ก็ได้รับคำปรึกษาจากคุณอาประพัฒน์ วิธีการจากเจ้านายเก่าและเจ้านายคนปัจจุบันมาใช้ผสมกัน ก็ทยอยปิดในส่วนของ Quick Cash ไปก่อนและอีซี่บายผ่อนไปจนหมดและเก็บเงิน การประหยัดเริ่มขึ้นทุกทางและต้องหาเงินเพิ่มในสิ่งที่ตนเองรัก มาสำรวจตัวเองก่อนว่าเราชอบอะไรตัวผมชอบรถยนต์และอะไรที่เกี่ยวข้องกับรถ ยนต์ก็สามารถทำเป็นเงินได้ มีเพื่อนเยอะใครช่วยฝากขายรถ+บ้านก็รับมาหมดขายได้ก็มีส่วนแบ่งได้มาทีหนึ่ง 3000 - 5000.- ตามเรื่องตามราว พอหยุดจ่ายก็มีเบอร์แปลกโดยเฉพาะนาย/นางไปรเวทมันมาประจำ 3 เวลาหลังอาหารเช้า/สาย/บ่ายเย็นก็โทรมาทวง แต่มีนอนแบงค์รายหนึ่งแมร่งบ้าสุดๆ ซัดกับมันมาตลอดมันอยู่ในเครือซิตี้แบงค์มีสโลแกนว่า สินเชื่อใกล้บ้าน บริการถึงลูกถึงคน มันคือซิตี้หยาบโลน โทรมาทวงที่บ้านที่ทำงานด่าคุณยายจนความดันขึ้น ด่าคุณแม่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย พูดจาหมา

เล่าเรื่องหนี้ ตอนต่อมา

ตอนที่ 3 ตอนขาหักต้องใช้การฟื้นฟูพอสมควรกว่าจะเดินได้ก็เกือบครึ่งปี ส่วนคุณพ่อผมอาการหนักเพราะไปชนกับขอบกำแพง ค่าใช้จ่ายของผมก็พอสมควร แต่ผมอยากให้คุณพ่อฟื้นคืนมามาคุยกับผมบ้างถึงจะไม่เหมือนเดิมก็ใช้เงินค่า รักษาตลอด ก็หาอีกหลายๆที่เช่น ซิตี้แบงค์ทั้งบัตรกดเงินสด พอเครดิตดีก็เอาอีกซิตี้แบงค์เพิร์ซัลนัลโลน คอมพิวเตอร์ก็เช่าซื้อกับอีซี่บายเพื่อเอามาใช้อินเตอร์เน็ตขายอะไหล่รถผ่าน เน็ต และทำงานจากที่บ้านส่งอีเมล์ไปที่ทำงาน(ทำงานบริษัทแต่ทำงานที่บ้าน) เงินเดือนจ่ายเต็มไม่มีหัก โชคดีเหมือนกัน พอหายดีก็กลับไปทำงานเหมือนเดิมก็ตั้งหน้าตั้งตาใช้หนี้ไป แต่ขับรถไม่ได้พักหนึ่งตั้งใจว่าคงไปซัดรถได้เหมือนเดิม ผ่อนไปผ่อนมาชักไม่ไหวแล้วค่าใช้จ่ายในการรักษาเริ่มบานปลาย มีหลายบัญชีเริ่มหมุนเงินไปบ้าง ชักเริ่มจะไม่ทันแล้ว เริ่มฉุกคิดแล้วว่า อะไรวะทำไมมันจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่พอก็เริ่มทำตารางหนี้สินขึ้นมา ติดตามตอนต่อไป ก็เริ่มทำตารางหนี้ใหม่พบว่ามีประมาณ 13 บัญชี เมื่อ 3 ปีก่อน เกือบๆ 400000.- มีหลายที่บวกไปบวกมาห่ะจะกินพอมีเงินเหมือนไก่บิน มีอะไรบ้างก็มี 1. สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ 40000.- 2. ท

อีกหนึ่งเรื่องจริงของคนเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล

เรื่องเล่าชาวหนี้ :ชีวิตหนี้ของตัวเอง ตอนที่ 1 เดิมทีผมก็เป็นคนๆหนึ่ง ที่พอมีพอกิน ตอนนั้นเงินเดือน 7500.- ก็ทำบัตรใบแรกในชีวิตคือ KTC ทำงานบริษัททำเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น ส่งตามห้างสรรพสินค้า ทำงานดีจนปรับให้เป็น 8000.- ทำเรื่อยๆ อีก 1 ปี หุ้นส่วนเกิดแตกมีปัญหาภายในชาวญี่ปุ่นถอนหุ้น เจ้านายท่านนี้ใจดีมีคุณธรรม ถือหุ้นหลายบริษัทใหญ่ๆ บอกไปก็ร้องอ๋อ กับเจ้าของประโยคคลาสสิคตลอดกาล ไม่มี...ไม่หนี....ไม่จ่าย...ไม่โกง สอนอะไรให้ผมมากมายเช่น 1. การใช้ชีวิตหลายเรื่อง 2. การใช้บัตรพลาสติก 3. ทักษะการต่อรองกับเจ้าหนี้แบบมีชั้นเชิง คุยไม่รู้เรื่องบุกไปหาถึงที่ 4. การยื้อ เตะถ่วง ดึงเรื่องต่างๆ 5. การตีทรัพย์สินใช้เจ้าหนี้ 6. สุดยอดไม้ตายก้น***บ การเจรจาชำระหนี้แบบมีส่วนลดปิดบัญชี(Hair Cut) ซึ่งมาดัดแปลง+ต่อยอดมาใช้ในการปิดบัญชีหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อใน ปัจจุบัน ท่านไม่เคยสอนให้คดโกงเจ้าหนี้ แต่สอนให้มีชีวิตรอดกับสภาวะล้มละลายเป็นหนี้นับพันล้านบาท ให้เหลือชีวิตรอดให้ได้ อย่าใช้หนี้จนไม่มีจะกินเด็ดขาด ต่อมาได้งานใหม่ใกล้บ้านทำหลายอย่างเจ้านายก็ดีก็ได้รถมาขับคันหนึ่ง ก็ใช้บัตร

อีกหนึ่งกรณีตัวอย่าง ติดบูโร เคลียร์แล้ว 2 ปี ก็กู้ซื้อบ้านได้

ผมเคยเป็นหนี้อยู่หลายแสนครับจากบัตรเครดิตและสินเชื่อต่างๆ โดนตามทวง ชีวิตเป็นทุกข์ อยู่หลายปี พยายามก้มหน้าก้มตาใช้หนี้อยู่หลายปีครับ จนหมดเมื่อ เกือบ 2 ปี ที่แล้ว           ตลอดเวลาที่ใช้หนี้อยู่ก็อยากมีบ้านมากๆ แต่ก็รู้ตัวดีว่ากู้ไม่ผ่านแน่นอน เมื่อใช้หนี้เสร็จ ก็เก็บตังค์มาเรื่อย เกือบ 2 ปี ระหว่างนั้นก็แวะไปดูบ้านอยู่เรื่อยๆครับ และเข้ามาแอบอ่านในชายคานี่แหละครับเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ต่างๆ ต้องบอกว่าที่นี่ให้ทั้งความรู้ กำลังใจ และบางครั้งก็บั่นทอนกำลังใจในบางคราว จนในที่สุดเจอบ้านที่ถูกใจจึง ตัดสินใจว่าจะเอาบ้านหลังนี้แล้วจึงเริ่มดำเนินการ          - สิ่งแรกที่ผมทำ คือ ไปเช็คเครดิตบูโรของตัวเองครับ ขอบอกเพื่อนๆที่อยากเช็คเครดิตบูโรแล้วกลัวว่าจะยุ่งยากเสียเวลา บอกเลยครับว่า"ไม่เลยครับ" ง่ายและรวดเร็วมาก ผมไปทำที่ ธอส ไม่ถึง 10  นาที่ก็รู้ผลแล้ว ครับ ถามว่า ทำไมต้องไปเช็คเครดิตบูโร เพราะว่าต้องการความมั่นใจว่าชำระหนี้หมดแล้วหรือไม่ และ เครดิตที่เสียได้ลบไปหรือยัง           เมื่อได้รับผลจากเจ้าหน้าที่ แกะซองดู พบว่ามีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายครับ ข่าวดี คือ ผม

ติดบูโรก็กู้บ้านครับ จาก เวปพันธุ์ทิพย์

21 ธันวาคม 2555  ผมตัดสินใจเพื่อปิดหนี้กับอิออนที่ทำให้ผมไม่สามารถทำธุรกรรมทางการ เงินได้เลย  เป็นจำนวนเงิน 23,607 บาท ซึ่งผมติดมาราวๆ เกือบๆ 5 ปี  ในขณะที่ปิดไปแล้วนะ  ก็ได้เก็บสลิปในการชำระไว้เรียบร้อย จากนั้นผมจึงทำการติดต่อโครงการบ้านจัดสรรในนามของโครงการ  บ้านใน ฝัน  ศรีราชา  ชลบุรี  ซึ่งทางโครงการก็ได้ถามผมว่า ผมเคยติดบูโรไหม ผมก็ตอบไปตรงๆ ว่า ติดครับ เพิ่งเปิดไปเมื่อ 21 ธันวาคม 2555  โครงการบอกว่างั้นก็มีธนาคารเดียวที่จะกู้ได้คือ ธอส.  ผมเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกนิด  แต่ด้วยความที่อิออนก็มัวแต่เล่นแง่  บอกผมว่าใบแจ้งปิดยอด จะสามารถออกได้ใน 45 วัน  ทำให้ผมหงุดหงิดใจไม่น้อย  ก็เลยส่งเรื่องเข้าไปในบริษัทเครดิตแห่ง ชาติ  พร้อมแนบเอกสารว่า ผมได้ทำการปิดยอดแล้ว  ให้ช่วยดำเนินการเคลียร์ยอดหนี้ให้เป็น 0 ให้ผมด้วย  11 มกราคม 2556  มีจดหมายแจ้งมาว่า ได้ดำเนินการเคลียร์ยอดให้แล้ว  และยอดก็เป็น 0 แล้ว จากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ  และนี่ก็ทำให้เห็นว่า ถ้าบริษัทที่เราติดหนี้เล่นแง่มาก  เขาก็แจ้งเข้าไปในบูโร  เดี๋ยวบูโรจะ ดำเนินการไล่บี้เอง 18 มกราคม 2556  ผมดำเนินการยื่นเรื่

10 ข้อคิดการจัดการการเงินในปี 56 ของคุณวรวรรณ ธาราภูมิ

รูปภาพ
ใครทำแล้วยกมือขึ้น 10 ข้อคิดจัดการเงินปี 56 -------------------------- ---------------------- วรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง วันนี้ ASTVผู้จัดการออนไลน์ นำเรื่อง "10 ข้อคิดจัดการเงินปี 56" ที่พี่ตู่เคยเขียนไว้ปลายปี 2555 หรือต้นปี 2556 มาลงใหม่ โดยเขาช่วยทำรูปประกอบไว้ให ้ดูง่ายๆ พร้อมจั่วหัวเรื่องเป็น "ใครทำแล้วยกมือขึ้น 10 ข้อคิดจัดการเงินปี 56" รูปประกอบของเขาทำดี ก็เลยเอามาให้ดูกันค่ะ -------------------------- -------------------------- ----------------------- ผ่านมาแล้วครึ่งทางสำหรับปี 2556 ซึ่งเมื่อต้นปีเราเคยนำ 10 ข้อคิดในการจัดการเงินปี 2556 ผ่านคอลัมน์บัวหลวง Money Tips มาบอกแก่ผู้อ่านเพื่อเพิ่มป ระสิทธิภาพในการบริหารด้านก ารเงินแล้วครั้งหนึ่ง แต่ถ้าใครยังไม่ได้ทำหรือยั งไม่สามารถปฏิบัติตามได้ครบ ทุกข้อ วันนี้เราจึงนำขั้นตอนดังกล ่าวมาเสนอเพื่อทบทวนให้ผู้อ ่านได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับกราฟิกอธิบายเพื่อใ ห้ง่ายต่อการสร้างความเข้าใ จ 1. จัดทำแผนรายได้ ค่าใช้จ่าย ประจำปี 2556 ----------------------

เริ่มต้นเรียนกันใหม่ ใช้ชีวิตไปต่อ

เริ่มต้นเรียนกันใหม่ ใช้ชีวิตไปต่อ ---------------------------------- วศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บลจ.บัวหลวง “การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด เพราะเมื่อชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงจาก การทำงานเต็มเวลา เป็น การมีอิสระทำตามสิ่งที่ตนปรารถนาในเวลาที่ไม่จำกัด การเดินทางครั้งใหม่ของชีวิตจึงเริ่มต้นขึ้น” เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงการเกษียณ ผู้คนอาจมีความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวว่า “จบแล้ว แค่เท่านี้แหละ” แต่ผมเชื่อว่า การเกษียณเป็นจุดเริ่มต้นที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำในสิ่งที่ตนเองสนใจได้เต็ม ที่และมีความสุข ต่างหาก ลองถามตนเองก่อนครับ เพื่อที่จะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเราสนใจอะไร และควรเดินต่อไปในทิศทางไหน เราสนใจอะไรอย่างแท้จริง สนใจจนทำให้เราอยากเรียนรู้ต่อ ? 1. มีสิ่งใดที่เราทำได้ดีที่สุด ? 2. สิ่งใดที่เราไม่ถนัด ? 3. สิ่งใดที่เราสนใจ แต่คิดว่าเราอาจทำได้ไม่ดีนัก ? หลังจากรู้ว่าตนเองสนใจในสิ่งใดแล้ว คำถามต่อมาก็คือ เราอยากศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องอะไร และเรื่อง นั้นสามารถไปเรียนรู้ได้จากที่ไหน ชีวิตเต็มไปด้วยการเรียนรู้ -------------------------- ณ วันนี้ ขณ

วิกฤตต้มยำกุ้ง ภาค 4

ต้มยำกุ้ง" .......Episode 4 7 กรกฎาคม 2556 ในที่สุดหนังของเราก็ยืดยาวกว่า ละครคุณชายจุฑาเทพที่จะอวสานในค ืนนี้ เมื่อวานผมได้สรุปกระบวนการแก้ไ ขระ บบสถาบันการเงิน ที่ทำให้ระบบหยุดไหล หยุดล่ม ไม่ต้องยึดเข้ามาเป็นของรัฐหมด ถึงแม้จะยังไม่กลับมาขยายตัว เพื่อรองรับศก. แต่ใช้เวลา ปรับตัวต่ออีกระยะหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา ลองเปรียบเทียบ บ้านเพิ่งโดนนำ้ท่วมใหญ่ วินาศสันตะโร พอนำ้ลดก็จะต้องเก็บก วาด แยกของเน่าของเสีย จัดแจงซ่อมแซมระบบ ไฟฟ้าประปา จัดสร้างเขื่อนกั้นนำ้(เช่น ระบบบริหารความเสี่ยง) ฯลฯ ก่อนที่พร้อมจะเข้าไปหาซื้อทรัพ ย์ใหม่เข้าบ้าน ขยายตัวได้อีก ก็โน่นแหละครับ ปี 2544 โดยธนาคารกรุงไทยเป็นหัวหอกบุกต ะลุย ทำให้เกิดสภาพแข่งขันขึ้นใหม่ วันนี้จะเล่าถึงกระบวนการด้าน องค์กรเพื่อการปฏิรูประบบสถาบัน การเงิน(ปรส.) ซึ่งถูกตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการกั บ บริษัชทเงินทุน ที่ถูกระงับกิจการ ในวันที่ 5 สค.40 รวม 58 แห่ง ซึ่งหลังจากทำหน้าที่พิจารณาแผน ที่ ทุกคนเสนอเข้ามา แล้วให้ผ่านแค่ 2 แห่ง (เกียรตินาคิน กับ BIC) ปิดถาวร 56 แห่งเมื่อ 8 ธค. 40แล้ว เลยต้องทำหน้าที่จัดการก

ต้มยำกุ้ง ภาค 3" ..... หนังที่จา พนม ไม่ได้ร่วมแสดง ลงโรงเมื่อ...6 กค. 2556

ต้มยำกุ้ง ภาค 3" ..... หนังที่จา พนม ไม่ได้ร่วมแสดง ลงโรงเมื่อ...6 กค. 2556 เมื่อวานซืนฉายตอนสอง คนมาshare มา like เหลือ600 จากตอนแรก 1400 แต่คิดดูยังน่าคุ้มทุน เลยตัดสินใจถ่ายทำภาค 3 (ถ้าลดตำ่กว่า500 ก็คงต้องลาโรง เดี๋ยวเจ๊งเหมือนหนังท่านมุ้ย) ตอนนี้น่าจะวิชาการหน่อยนะครับ เพราะจะว่าถึงกระบวนการแก้ปัญหา ของเหล่าพระเอกทั้งหลายที่มาร่ว มชุมนุมกัน ใช้เวลาร่วม 2 ปีกว่าจะตั้งหลักเดินได้อีก ผมและดร.ศุภวุฒิ ค่อนข้างโชคดีที่มีโอกาสรับรู้ค ่อนข้างใกล้ชิดในระดับ ริงไซด์ (ไม่ได้เพื่อเอาอินไซด์ไปหาประโ ยชน์อะไรนะ...ดักคอพวกจิตอกุศลไ ว้ก่อน) เพราะเราทำวิเคราะห์ วิจัยไว้เยอะ ตั้งแต่ก่อนวิกฤต มีข้อมูลที่ทางการไม่มีอยู่เยอะ แค่ปลายปี96 เราก็ค่อนข้างฟันธงว่าประเทศไทย น่าจะกำลังเดินหน้าเข้าสู่วิกฤต ิการเงิน ถึงจะมีความหวังบ้างว่าอาจจะมี soft landing (คำเพราะที่ไม่เคยเห็นมีใครทำได ้สำเร็จ....รอ ดูจีนละกัน) แต่ก็ดูริบหรี่ เพราะการกัดลูกปืน(bite the bullets)ก่อนเกิดฉิบหาย ไม่เป็นที่นิยมของชาวประชา ไม่เคยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือก ตั้งไหนทำได้(จีนถึงมีหวังไง) ฝ่ายวิจัยของภั

มหากาพย์ "วิกฤติต้มยำกุ้ง" ตอน 2 ... (เล่าเมื่อ 4 กค. 2556)

มหากาพย์ "วิกฤติต้มยำกุ้ง" ตอน 2 ... (เล่าเมื่อ 4 กค. 2556) เมื่อวานซืนบทความ "16 ปีแห่งความหลัง" มีคนกดไลค์ กดแชร์ เกินพันเป็นครั้งแรกของบทความผม เป็นกำลังใจให้เล่าตอนต่อ เพื่อไม่ให้นานเกินรอ กระบวนการแก้ไขและผลภายหลังของว ิกฤติ ส่วนใหญ่เป็นที่รับรู้และมีการว ิเคราะห์ วิจัย หาอ่านได้เยอะแยะทั่วไป ที่จะเล่า จะเป็นส่วนที่ผมเกี่ยวข้อง ได้รู้ได้เห็น (บางเรื่องเป็น inside) คนอื่นไม่ค่อยได้เน้น และเป็นใ นมุมมองของผมเป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะพาดพิงถึงใครโดยไม่เหมาะสม บ้างก็ขอกราบขออภัย และท้วงติงด่าทอกลับมาได้ (อย่าถึงกับฟ้องร้องเลย) ตอนที่แล้วเล่าถึงสาเหตุ ความผิดพลาดที่คนครึ่งโลก รวมทั้งคนไทยครึ่งประเทศมีส่วนร ่วม ทำให้เกิดวิกฤต จนถึง 2 กค.40 และผมยกให้ Exchange Rate Policy เป็นสาเหตุสำคัญที่สุด ทั้งๆที่เป็นนโยบายที่มีจุดประส งค์ที่ดี ทำให้เกิดผลดีในระยะหนึ่ง แต่นานไปก็ก่อให้เกิดการบิดเบือ นในภาคส่วนต่างๆ มีหลายท่านพยายามอธิบายว่า เป็นแผนการล่าอาณานิคมทางเศรษฐก ิจ ที่ไอ้พวกต่างชาติทั้งโลกมันร่ว มกัน วางแผน เอาเงินมาหลอกให้เรากู้ เอาเข้ามาแกล้งซื้อหุ้น แล้วขยิบต

2 กรกฎาคม 2556... 16 ปีแห่งความหลังงงงงง

2 กรกฎาคม 2556... 16 ปีแห่งความหลังงงงงง โดย คุณ Banyong Pongpanich วันนี้ตื่นแต่เช้าตรู่ สิ่งแรกที่นึกถึง ก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวัน นี้ของ16 ปีที่แล้ว..เป็นอันว่าได้เล่าเร ื่องเก่าอีกวัน(สงสัยจะแก่จริง) 2 กค. 2540 ผมถูกโทรศัพท์ปลุกตั้งแต่ตีห้าค รึ่ง โดยอาจารย์เปี๋ยม(ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ)โทรมาบอกว่า แบงค์ชาติปลุกCEO ธนาคารทุกคนให้ไปประชุมตอน 7 โมงเช้า น่าจะมีการลดค่าเงิน ปรากฎว่าอ.เปี๋ยมคาดผิดไปนิดหนึ ่ง เขาไม่ได้ลดค่าเงิ น แต่เขาลอยตัวค่าเงินบาท ซึ่งมันก็ลอยลง ลอยลง อย่างรวดเร็ว จาก 25 บาทต่อUS$ เป็น 40เป็น 50 ไปโน่นเลย นั่นเป็นฉากเริ่มต้นของหนังยาวท ี่ชาว ไทยจำได้ดี เพราะเป็นหนังที่รวบรวมทั้ง drama, thriller, adventure, โศกเศร้ารันทด, สยองขวัญ ครบทุกรสชาด(ยกเว้น comedy เพราะขำไม่ออกเลยจริงๆ) 16 ปีผ่านไป เรามาย้อนดูอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้ น...ใครกันวะ(ที่ไม่ใช่กู) ทำให้มันชิบหาย หลายคนโทษพ่อมดการเงิน คุณพี่Soros และชาวคณะ hedgefund ที่ทะยอยโจมตีค่าเงินบาทหลายระล อก... หลายคนโทษธปท.ที่ต่อสู้ยิบตาจนห มดหน้าตัก... บางคนไพล่ไปโทษจีน ที่บิ๊กจิ๋วส่งคนไปขอยืมแค่หมื่