กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์น่าสนใจตรงไหน?
เมื่อพูดถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
หลายท่านอาจนึกถึงการลงทุนโดยตรงด้วยการซื้อบ้านหรือคอนโดไว้แล้วปล่อยเช่า เพื่อหวังจะมีรายได้จากค่าเช่าที่เข้ามาทุกเดือน
แต่การลงทุนแบบนี้ต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงทีเดียว และหากหวังว่าจะได้กาไรจากการขายต่อ
ก็อาจทาได้ไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าบ้านหรือคอนโดที่ซื้อไว้ไม่ได้อยู่ในทาเลที่ดีพอ
การซื้อขายเปลี่ยนมือก็คงยากพอดู ขณะที่บางท่านอาจลงทุนด้วยการซื้อหุ้นของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างบ้านขาย
เพื่อหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลหรือกาไรจากการขายหุ้น วิธีนี้ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง
แต่หากตลาดหุ้นผันผวน ผลตอบแทนที่ได้รับก็คงไม่แน่นอนนัก หากใจไม่หนักแน่นพอ จากที่หวังกาไรก็อาจจะเกิดขาดทุนก็เป็นได้
แล้วจะมีทางเลือกในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบไหนล่ะ
ที่จะตอบความต้องการของท่านได้ ? บางท่านอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มาบ้าง
ลองมาดูกันว่ากองทุนนี้น่าสนใจตรงไหน
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเราให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับ
6-8 % ต่อปี ซึ่งนับว่าน่าสนใจไม่น้อยในภาวะที่ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยยังไม่สูงนัก
โดยรูปแบบที่กองทุนลงทุนมีทั้งแบบซื้อขาดอสังหาริมทรัพย์จากเจ้าของเดิม เพื่อจะได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น
และอีกแบบคือลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ระยะยาว (เท่ากับการเซ้ง)
ทรัพย์สินที่เข้าไปลงทุนก็มีหลายรูปแบบ ทั้งอาคารสานักงาน ที่พักอาศัย
ศูนย์การค้า โรงแรม อาคารโรงงาน และอื่นๆ โดยกองทุนมีรายได้หลักจากค่าเช่า แล้วนาค่าเช่าหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆมาจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนเป็นเงินปันผล
อย่างไรก็ดี กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มีทั้งข้อดีและข้อด้อยที่ควรทราบคือ
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อด้อยของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ข้อดี
|
ข้อด้อย
|
||
1
|
ใช้เงินลงทุนน้อยเมื่อเทียบกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จริง
|
1
|
ผู้ลงทุนไม่มีความเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์
ที่แท้จริง ยิ่งหากเป็นกองทุนรวมแบบสิทธิการเช่า มูลค่ากองทุนจะเหลือศูนย์เมื่อเลิกกองทุน
|
2
|
ผลตอบแทนจากเงินปันผลมักอยู่ในระดับสูง
และเป็นผลตอบแทนระยะยาวเพราะกองทุนต้องจ่ายเงินปันผลในอัตรา ไม่ต่ากว่า 90% ของกาไรสุทธิ
|
2
|
สภาพคล่องต่า ยิ่งหากเป็นกองทุนขนาดเล็ก
มักไม่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือมากนัก
|
3
|
ราคาหน่วยลงทุนแกว่งตัวน้อยเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
|
3
|
โอกาสที่จะได้กาไรจากการซื้อขายค่อนข้างน้อย
|
4
|
มีผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์บริหารจัดการให้
ช่วยขจัดภาระในการจัดการดูแลทรัพย์สิน
|
4
|
มีค่าใช้จ่ายในการจัดการดูแลทรัพย์สินค่อนข้างสูง
|
สาหรับปัจจัยในการเลือกลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ท่านอาจนามาพิจารณา
ได้แก่
ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนลงทุนเทียบกับราคาประเมินอสังหาริมทรัพย์ ราคาที่กองทุนซื้อกรรมสิทธิ์หรือสิทธิการเช่าไม่ควรสูงกว่าราคาประเมินที่เสนอโดยผู้ประเมินอิสระ
หากสูงกว่าก็อาจพิจารณาได้ว่าซื้อในราคาที่แพงเกินไป
ความสม่าเสมอของรายได้ ตลอดจนอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมา โดยทั่วไปอัตรา การใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์
(occupancy rate) จะเป็นตัวบ่งชี้ความสามารถใน การสร้างรายได้ รวมทั้งหากมีประวัติการจ่ายปันผลสม่าเสมอ
หรือจ่ายในอัตราที่เพิ่มขึ้น ก็จะเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น (กรณีสิทธิการเช่าต้องไม่นับรวมเงินที่จ่ายคืนทุน)
กรณีกองทุนที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่งสร้างเสร็จ
ยังไม่มีประวัติการสร้างรายได้ ท่านอาจใช้วิธีพิจารณาปัจจัยแวดล้อมอื่น เช่น ศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ว่ามีโอกาสหา
รายได้มากน้อยเพียงใด แต่ต้องไม่ลืมว่า หากยังไม่มีรายได้เท่ากับว่ามีความเสี่ยงสูง
ขนาดของกองทุน โดยปกติกองทุนที่มีขนาดใหญ่มีมูลค่าซื้อขายต่อวันสูงกว่ากองทุนที่มีขนาดเล็ก
ทาให้ซื้อง่ายขายได้คล่องกว่ากองทุนขนาดเล็ก ซึ่งท่านสามารถหาข้อมูลการซื้อขายได้จากได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์
www.set.or.th
ความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการดาเนินงานของกองทุนรวม
ควรพิจารณาถึง ระยะเวลา การเช่า สัญญาระยะยาวจะสร้างความมั่นคงได้ดีกว่าสัญญาระยะสั้น
ความเสี่ยงกรณีเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกาหนด การจัดให้มีการประกันภัยทรัพย์สิน หรือแผนรองรับหากเกิดเหตุการณ์
ไม่คาดฝัน
ค่าใช้จ่ายโดยรวมของกองทุน ควรเปรียบเทียบระหว่างกองทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน
หากมีอัตราสูงย่อมส่งผลต่อผลกาไรที่จะจ่ายให้ผู้ลงทุนได้น้อยลง
การรับประกันรายได้ ส่วนใหญ่มักมีเพียงช่วงแรกเท่านั้น ข้อสาคัญคือ ท่านควรดูฐานะทางการเงินของผู้รับประกันรายได้ด้วยว่าจะสามารถทาได้อย่างที่สัญญาหรือไม่
ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นท่านสามารถหาได้จากหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก
รายงานประจาปีของกองทุน (www.sec.or.th) รวมทั้งสรุปข้อสนเทศของแต่ละกองทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
(www.set.or.th)
จากแนวโน้มเศรษฐกิจขาขึ้นรอบนี้ คาดกันว่าสภาวะการค้าการขายของธุรกิจต่างๆ รวมไปถึง การท่องเที่ยวน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องก็น่าจะได้รับ อานิสงค์มีรายได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย สาหรับท่านที่สนใจลงทุนในกองทุนรวมประเภทนี้ สามารถติดตาม ข้อมูลข่าวสารของกองทุนที่เปิดขายใหม่ได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือธนาคารพาณิชย์ที่เปิดขายกองทุนออกใหม่เป็นครั้งคราว แต่หากเป็นกองทุนที่ปิดการขายไปแล้ว ท่านสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ด้วยวิธีเดียวกันกับการซื้อขายหุ้นผ่านโบรกเกอร์ ทั้งนี้ ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต.
www.sec.or.th/education ในหัวข้อ สื่อให้ความรู้/บทความ/สินค้าในตลาดทุน/กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ แล้วพบกับความรู้การลงทุนจาก ก.ล.ต.ได้ใหม่คราวหน้า สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น