ประสบการณ์คนทำโรงแรมขนาดเล็ก



บทส่งท้าย 
การทำโรงแรม ประสบการณ์การเจอคนมากหน้าหลายตา เจอหลายอารมณ์ คนหลายแบบ แบบดี ๆ ก็มีเยอะ แบบมาไม่ดี แต่ก็ยังพักกับเราก็มีมาก หลายคนมาเที่ยว มาพักโรงแรม แล้วรู้สึกว่าเป็นธุรกิจที่น่าทำ ผมก็เป็นหนึ่งคนที่เคยรู้สึกแบบนั้น แต่พอได้มาทำ กลับไม่ใช่สิ่งที่เคยคิด คาดหวังไว้ มีลูกค้าบางคนมาแล้วชอบที่นี้ บอกว่ามีที่ดินอยู่ มีเงินอยู่ก้อน อยากกลับไปทำแบบนี้บ้าง ขอคำปรึกษาหน่อย ผมเลยตอบไปว่า อย่าทำเลยดีที่สุด ถ้าคิดจะทำจริง ๆ หาคนอยู่นอนเฝ้าโรงแรมตอนกลางคืน อย่าเอาโรงแรมเป็นบ้าน และควรจะเป็นช่างซ่อมให้เป็น อย่างน้อยดูไฟ ดูประปาให้พอได้ก็ยังดี  ที่บอกไม่ให้เอาโรงแรมเป็นบ้าน เพราะคุณจะไม่มีวันได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม บางทีลูกค้าเมามาตอนตี 2 ตี3 บางทีลูกค้ามานั่งกินเหล้ากันที่รับแขกบ้าง ที่ทานอาหารบ้าง หรือถึงขนาดบางทีลูกค้ามาเคาะประตูจะเอานู้นนี้นั้น ตอนที่คุณหลับไปแล้วบ้าง ส่วนที่บอกให้มีนิสัยช่าง คือของพวกนี้มักจะเสียตอนกลางคืน หรือตอนทีไม่สามารถเรียกช่างมาดูได้ ดังนั้นคุณควรจะพอดูให้เป็น พอซ่อมแก้ขัดไปได้......
                  
            ลูกค้าที่ดี ๆ มีเยอะ ก็เป็นกำลังใจให้เราทำต่อไป เช่น คุณหมอท่านหนึ่งมาพักช่วงที่เราเปิดใหม่ ๆ ยังไม่รู้การทำงานอะไรมาก คุณหมอบอกชอบที่นี้มาก เห็นเรากับแฟนเป็นคนหนุ่มตั้งใจทำงานจริง ทำทุกอย่าง คุมทุกอย่างด้วยตัวเอง ท่านก็ชื่นชม หรือลูกค้าประจำหลายท่านที่มาพักแล้ว ย้อนกลับมาอีกเมื่อมาแม่สอด ก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจในการทำงาน บางคนก็เกรงใจเราบอกว่าไม่ต้องทำความสะอาดห้องก็ได้ เกรงใจ ผมก็บอกไปไม่เป็นไรครับ ทางเรายินดีทำให้ บางคนมาพัก พอบอกราคาห้องไป ตกใจว่าทำไมถึงตั้งราคาถูก เป็นห่วงเราว่าจะอยู่ไม่ได้ บางคนมาก็มีของติดไม้ติดมือ เล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝาก สิ่งเหล่านี้ก็เป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้เรามีแรงสู้กับการเอาเปรียบของอีกบางคน พูดถึงลูกค้าดี ๆ ไปแล้ว ลองมาดูลูกค้าที่ไม่เข้าใจเราบ้าง ส่วนใหญ่ที่สังเกตจะเป็นลูกค้าที่ไม่เข้าใจว่า จ่ายค่าห้องไปแล้ว แต่จะพักหลายคน ไม่เสริม ไม่เอาอะไรทั้งสิ้น ทำไมต้องจ่ายเงินเพิ่ม บางคนมาพ่อ แม่ ลูกอีก 2 คน บอกว่าไม่เสริมนะ ลูกยังเล็กอยู่ แต่พอเดินเข้ามาลูกอายุ 10 กว่าขวบ 2 คน ในกรณีนี้เกิน 8 ขวบถือว่าไม่เด็กแล้วนะครับ บางคนห้องหนึ่งจะนอน 5 คนก็มี เคยมากสุดลูกค้าขอนอนห้องหนึ่ง 10 คน คือ.....พี่จะนอนอัดกันยังไงได้ 10 คน  ลูกค้าบางกลุ่มมากันเยอะ ก็เหมาโรงแรมไป แต่พอเหมาไปแล้วแทบทุกรายจะรู้สึกว่าโรงแรมเป็นของเขา ก็จะสนุกกันเต็มที่ อันนี้เราไม่ว่ากัน แต่เด็กเล็กที่มาด้วย ก็ปล่อยเต็มที่เหมือนกัน ทีนี้มีสระน้ำเลี้ยงปลา ทางโรงแรมก็กลัวเด็กจะตกน้ำ เพราะผู้ใหญ่ไม่ดูแลกันเลย ท้ายที่สุดเด็กไม่ตกน้ำครับ แต่  ฉี่ กลางโรงแรมมันเลย ครั้งแรกยังไม่ว่าอะไร สั่งคนงานเอาน้ำมาล้าง ครั้งที่สองเล่นปล่อยกันหน้าฟร้อนท์ ตรงที่ลงทะเบียนเช็คอินกันเลยทีเดียว จนต้องบอกแขกว่า ช่วยรบกวนดูแลเด็ก ๆ ให้ด้วยนะครับ ว่ากันถึงเรื่อง ฉี่ ก็ยังมีอีก คราวนี้เป็นผู้ใหญ่ มาเช็คอิน แล้วเกิดอยากเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ถามว่าห้องน้ำอยู่ไหน เดินดุ่ม ๆ  ไปปล่อยในสวนข้างศาลาทานอาหารเช้า ไม่เมา....แต่ไม่คิด ก็ไม่เข้าใจ จุดนั้นแขกมักจะไปปล่อยของกันประจำ ทั้งที่มานั่งดื่มเหล้าชิว ๆ ตอนกลางคืน หรือปวดตอนกลางวัน มักจะไปมุมนั้นตลอด ทั้ง ๆ ที่ห้องน้ำเดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงแล้ว ลูกค้าผู้ชายอีกกลุ่มหนึ่งที่เขาไม่เข้าใจคอนเซปต์โรงแรม เรื่องโสเภณี หรือหญิงบริการ ที่นี้จะห้ามไม่ให้เรียก หรือพาหญิงบริการเข้ามา เพราะตอนแรกยังไม่รู้ ยังไม่ได้ห้าม ปรากฏวุ่นวายกันมาก ตี 1 ตี 2 เดินกันให้วุ่นวาย พอเสร็จกิจ ก็มาคุยโทรศัพท์เสียงดัง รบกวนแขกห้องอื่น ที่สำคัญผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว มักจะเลอะเลือด คราบสกปรกต่าง ๆ พอให้แขกจ่ายเงินค่าเสียหายก็ไม่ยอม ไม่พอใจ เลยห้ามกันไปเลยดีกว่า ปลอดภัยทั้งสิ่งของ และตัวแขกเอง ก็เข้าใจว่าเลือดรักชาติแรง อยากจะตีพม่า กู้เอกราชที่เคยเสียไป แต่คิดมั้ยว่า พวกนี้ไม่เคยตรวจโรค และความรู้น้อย วันหนึ่ง ๆ ผ่านศึกมากี่น้ำแล้ว กว่าจะมาถึงแขกตอนกลางคืน ยับเยิน เคยถามคนมาส่งเด็กว่าคิดราคาเท่าไหร่ ยังไง เขาบอก 500 บาท เล้าเอา 300 แบ่งให้โรงแรม 100 ส่วนเด็กได้ 100 บาท คิดดูสิว่าวันหนึ่งน้องเขาต้องออกศึกกี่รอบถึงจะพอกิน ลูกค้าหายมั้ย....ก็หายเหมือนกันนะที่ทำแบบนี้ แต่ได้โรงแรมที่สะอาด และไม่สนับสนุนการขายบริการมาแทน ถือว่าคุ้ม 


ลูกค้าอีกแบบ อันนี้นาน ๆ เจอที ส่วนมากปัญหามักจะเกิดกับลูกค้ากลุ่มใหญ่ โรงแรมไม่สามารถรองรับได้หมด ทำให้ต้องมีการแบ่ง แยกโรงแรมกันนอน เคยมีอยู่ครั้ง อันนี้จำขึ้นใจ เพราะใจเย็นจนมือไม้สั้นไปหมด ถึงขนาดได้พูดคำว่า ไม่เป็นไรครับ ไม่พักที่นี้ก็ได้เรื่องมีอยู่ว่า โรงแรมใหญ่ที่เคยส่งลูกค้าให้กันเวลาเต็ม ขอเรียกว่าโรงแรม ก. โทรมาว่าจะส่งลูกค้าไปให้นะ เพราะที่นั้นเต็มแล้ว เขามากันเป็นรถบัส กับรถตู้หลายคัน  รถตู้ 1 คันได้แยกมาพักที่โรงแรมผม แต่ทางนั้นมาไม่ถูก ทางโรงแรม ก. เลยโทรมาแจ้งให้มารับ ขับรถนำลูกค้าไปด้วย เราก็เลยรีบขับรถไปที่โรงแรม ก. แต่.....พอไปถึงปรากฏว่า กลุ่มลูกค้านั้นไม่พอใจอย่างมาก ที่ต้องแยกไปนอนอีกที่ ว่าโรงแรมเราทั้ง ๆ ที่ยังไม่เห็น ยังไม่ได้มาเหยียบ บอกว่าโรงแรมเราไม่ดี ไม่สะดวกสบาย ไม่ชอบ ทำไมต้องให้ไปนอนที่นั้น เขาต้องการนอนที่โรงแรม ก. ช่วงนั้นโรงแรมทุกโรงแรมที่นี้ เต็มแทบทุกที่ เพราะเป็นช่วงเทศกาลกฐิน เราไปถึงก็ อึ่ง พูดไม่ออก มองหน้าน้องพนักงานโรงแรม ก. เขาก็ยิ้มบอกว่า ที่นี้เต็มหมดแล้วพี่ ยังไงก็ต้องไปที่ของเรา ๆ เลยได้แต่เงียบ และรอให้เขาบ่นให้เสร็จ จนขึ้นรถตู้ เราขับรถนำมา พอมาถึงโรงแรม สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่พอใจอย่างมาก บอกเราว่า ที่นี้คืออะไร โรงแรมเหรอ มันไม่ใช่โรงแรมสักหน่อย ที่นี้เป็นบ้าน แบบนี้เขานอนบ้านก็ได้ เขามาโรงแรม เพื่อต้องการนอนโรงแรม ที่เป็นตึกหลาย ๆ ชั้น ต้องมีลิฟท์สิ อย่างนี้ถึงเรียกว่าโรงแรม แบบนี้ไม่ใช่แล้ว ดูสิลิฟท์

ก็ไม่มี ต้องเดินบันไดขึ้น (มีแค่ 2 ชั้น) ไม่สะดวกเลย อะไรไม่รู้  ให้มาพักที่อะไรก็ไม่รู้ แล้วมีอีกคนก็ถามมาว่าราคาเท่าไหร่ เราก็บอกไป 490 รวมอาหารเช้า แต่ทางโรงแรม ก. ขอให้เป็น 450 เราให้ ทางโรงแรม ก. แจ้งมาว่าพักที่นี้ 2 คืน แล้วป้าคนหนึ่งก็โพล่งมาว่า โหย อะไรแบบนี้อะนะราคา 450 แพงไป ๆ แบบนี้ให้ 300 ยังว่าแพงเลย ตอนนั้นมือเราสั่น ปากเราสั่นมาก โกรธจนน้ำตาแทบไหล จดจำทุกคำพูดได้หมด แล้วป้าคนนั้นก็บอกว่า เมื่อกี้เห็นป้ายมีอยู่ทีราคา 350 บาท ลองไปดูสิ เราเลยพูดว่า ได้ครับ ไม่เป็นไร ไม่พักที่นี้ก็ได้ เชิญเลยครับ 



 มีป้าคนหนึ่งคงรู้สึกได้ก็เลยพูดดีกับเราด้วย เราก็บอกไปว่า ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ เชิญเถอะครับ จะไปโรงแรม ก. ก็ได้ หรือจะไปลองหาที่อื่นก็ได้ พอกลุ่มนี้ไปที่รถตู้ อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจกลับมาบอกว่า อยู่ที่นี้คืนหนึ่งก่อนแล้วกัน จองไว้ 2 คืนใช่มั้ย อยู่คืนหนึ่งก่อน พรุ่งนี้ค่อยไปที่โรงแรม ก. เราก็โอเค แล้วแต่เขา (แต่โดนแฟนว่า โดนเขาว่าขนาดนี้ยังจะรับเขามาอีก แล้วยังใจเย็นได้ขนาดนั้นเลย.....เออเนอะ) เลยโทรไปแจ้งโรงแรม ก. ว่าลูกค้าขอพักคืนเดียวนะ คืนที่ 2 จะไปนอนที่โรงแรม ก. น้องเขาก็ร้องว่า เฮ๊ย ไม่ได้พี่ ที่นี้เต็มหมดทุกห้องแล้วจะมานอนได้ยังไง เราก็บอกไปว่า ไม่รู้สิ ลูกค้าต้องการนอนโรงแรม ก. อย่างเดียว และพรุ่งนี้อาหารเช้า พี่ขอให้ลูกค้าไปกินที่โรงแรก ก. นะเพราะที่นี้ไม่ใช่ไลน์บุปเฟต์ ลูกค้าคงไม่พอใจ ว่าทำไมไม่ได้อาหารเช้าเป็นแบบ บุปเฟต์ พอรุ่งเช้า ทุกอย่างเปลี่ยนไป ทุกคนชมว่าที่นี้ดี นอนหลับสบาย เงียบสงบ เช้า ๆ อากาศดี บอกว่าจะอยู่อีกคืน แต่...เราปล่อยห้องไปแล้ว เพราะแจ้งว่าอยู่คืนเดียว และไม่พอใจโรงแรมเราซะขนาดนี้จะอยู่คืนที่ 2 ทำไม ก็เลยต้องเช็คเอาท์กลับไปที่โรงแรม ก. เย็นวันนั้นโรงแรม ก. โทรมาถามว่ามีห้องว่างมั้ย แล้วกระซิบบอกว่า กลุ่มนั้นแหละ หาที่พักไม่ได้ เต็มหมดทุกที่เลย แต่ทางเราห้องเต็มหมดแล้ว(อันนี้เรื่องจริง เต็มจริง ๆ ไม่ได้แกล้งไม่รับ) สุดท้ายได้ยินมาว่า ต้องไปแทรกอัดเข้าไปในห้องคนอื่น กระจายกันไปที่โรงแรม ก.  ก็ได้นอนโรงแรม ก. สมใจ แต่กระจายกันไป โยกย้ายกันมา
เคยโดนลูกค้าพักแล้วชิ่งหนีมั้ย...ยังนะ มีแต่เกือบ ๆ เขาบอกเขาลืมจริง ๆ คือตอนเช็คอินขอชำระค่าห้องเลย แต่ลูกค้าบอกว่าขอเป็นตอนเช็คเอาท์ได้มั้ย แต่พอวันเช็คเอาท์ ลูกค้าไปเลย ทิ้งกุญแจไว้ในห้อง เลยต้องโทรไปตาม เขานึกขึ้นได้เลยขับเข้ามาจ่าย แต่ที่โดนจริง ๆ คือ ค่าเบียร์ มาม่า เอาไปกินตอนกลางคืน แต่ยังไม่จ่าย บอกลงบิลไว้ตอนเช้าจะมาจ่าย แต่เอาเข้าจริง คงลืมขับรถไปไกลแล้ว


                สุดท้าย อาชีพคนโรงแรมที่หลายคนมองว่าสวยงาม น่าทำ มันไม่ได้สวยอย่างที่คิด แต่มันก็ไม่ได้ดำมืดจนน่ากลัว ถ้าคิดจะทำ ก็ทำได้แต่ต้องเตรียมรับมือกับหลายอย่างที่จะต้องเจอ บางคน ขอเน้นว่าบางคนจริง ๆ และส่วนน้อยด้วย มาจากกรุงเทพ มาต่างจังหวัดก็ชอบคิดว่า เราเป็นคนบ้านนอก ไม่รู้จักความเจริญ บางคนพูดด้วย ก็ไม่พูดด้วย แต่ส่วนน้อยครับ น้อยจริง ๆ แต่พอเจอก็ชวนให้หงุดหงิดอารมณ์

ความคิดเห็น

  1. ขอบคุณมากครับ
    ที่แบ่งปันประสบการณ์

    ผมกำลังหาข้อมูล
    การทำโรงแรมเล็กๆอยู่พอดี

    พอได้อ่านแล้ว
    ขอเบรคไว้ก่อนดีกว่า

    ตอบลบ
  2. กำลังทำ และ กำลังทำใจ ค่ะ แต่ก็ฝากด้วยน่ะค่ะ ไหนๆก็ทำแล้ว The Bike Loft บูทีค น้ารักๆ www.facebook.com/thebikeloft

    ตอบลบ
  3. อันนี้ของผมเปิดใหม่

    https://www.facebook.com/baannasingh

    ตอบลบ
  4. พูดได้คำเดียวว่าอย่าทำค่ะ!!!!
    แล้วชีวิตจะมีความสุข

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์จริงคนขึ้นศาลคดี Easybuy

แนวทางรับมือเมื่อได้รับหมายศาลแบบบ้านๆ โดยคุณแก้วจ๋า ชมรมหนี้บัตรเครดิต

หมายศาลจะถุกส่งไปที่ไหน