ตกผลึก+++กลยุทธการค้าขาย ทำอย่างไรให้ไม่เจ๊ง

ตกผลึก+++กลยุทธการค้าขาย ทำอย่างไรให้ไม่เจ๊ง       vote ติดต่อทีมงาน
ได้อ่านหลายๆบทความมา แล้วนำมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับเรา ซึ่งเราว่าบางอย่างได้ผล บางอย่างไม่ได้ผล เราเชื่อว่าหลายๆคนคงได้เจอหรือกำลังประสบปัญหาอยู่ คือ จะขายอะไร ขายยังไง ให้ได้กำไรและอยู่รอดเป็นธุรกิจตัวเองได้ ..... วันนี้ขอวิเคราะห์ปัญหาและวิธีแก้ไขของตัวเองให้เป็นตัวอย่างนะคะ แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะว่า สินค้า ตลาด ทำเล วิธีการ แต่ละท่านไม่เหมือนกัน ต้องลองผิดลองถูกกัน และที่สำคัญสิ่งที่ผิดพลาดต้องเก็บเป็นบทเรียนค่ะ ^^

สินค้าเรา คือ เสื้อผ้ามือสอง

ทำเลเรา คือ ตลาดนัด ขายเฉพาะ ศ-อา

วิธีการขาย คือ ที่ตลาดนัด และทางเว็บไซด์ + แฟนเพจ

การตลาด คือ ฝากเว็บไซด์ร้านตามเว็บประกาศต่างๆ

เริ่ม ต้นเลย...พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ไม่ว่าจะเริ่มต้นขายที่ตลาด หรือขายทางเว็บไซด์ คุณคือคนใหม่ ต้องแยกความเป็นมือใหม่ที่ตลาด และมือใหม่ในเว็บไซด์ เราเริ่มต้นที่ความเป็นมือใหม่ที่ตลาดก่อนเลยล่ะกันค่ะ

จุดเริ่มต้น ที่เรามองว่าสำคัญ คือ ตลาด ทำเล (เว้นแต่ว่าคุณมีงานฝีมือ แฮนด์เมด คุณต้องเปลี่ยนเป็นมองสินค้าเป็นหลักสำคัญนะ) ไปสำรวจเลยค่ะว่าชอบตลาดไหน ทำเลไหน เดินทางสะดวก คนเดินซื้อของมาก-น้อยแค่ไหน ใกล้บ้านไหม แล้วแต่เลือกเลยค่ะ ...

เราเลือกตลาดที่คนเยอะ เพราะคิดว่าคนเยอะปริมาณคนซื้อของจะเยอะตาม ^^ โปรดระวังตลาดดังแต่คนวายเร็ว ต้องเดินดูหลายๆวันนะคะ แกล้งไปสอบถามพ่อค้าแม่ค้าแถวๆย่านนั้นดูว่า เป็นไงบ้าง ขายดีไหมค่ะพี่ ... ประสบการณ์ส่วนตัวสินค้าเราตะเวนขายตามตลาดดังๆ คนเยอะๆ แต่เราขายไม่ได้ 555+ ทั้งที่ของแสนจะถูก เดี๋ยวมีเรื่องวิเคราะห์สินค้าค่ะ

เมื่อได้ ตลาดแล้ว คุณต้องสำรวจแล้วล่ะว่าคุณอยากขายอะไร ??? แล้วสินค้านั้นในตลาดที่คุณเลือกมีกี่เจ้า ขายกันราคาเท่าไรบ้าง ... แต่ ไม่แนะนำเรื่องการตัดราคานะคะ คุณตัดได้ เขาก็ตัดได้ ตัดกันไป ตัดกันมา จะแย่ทุกคน

แล้วสินค้าล่ะ จะเลือกอะไรมาขายดี ... เหมือนปัญหาโลกแตกค่ะ ผู้หญิงก็อยากขายเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เพราะฉันชอบ ใช่ค่ะ หลายๆคนก็ชอบเช่นกัน ^^ ล้นตลาดกันไปเลยทีเดียว ... สินค้านั้นการเลือกต้องมองถึงระยะยาวด้วยนะคะว่าจะจมทุน จมค่าที่ไหม เคล็ดลับการขายให้สำเร็จคือ เร็ว สินค้าที่สต็อคไว้นานยังไงก็ไม่น่าจะคุ้มนะคะ ยกเว้นของเก่าที่ยิ่งเก่ายิ่งแพง

มองทะลุกันไปเลยค่ะ สมมติว่าคุณเลือกขายเสื้อผ้า เอาเป็นเสื้อกล้าม คุณจะจัดร้านยังไง มีเต๊นท์ไหม ขึ้นโครง หรือวางพับๆไว้กับโครงเตี้ยๆ คุณนึกภาพร้านเลยค่ะ คำนวณว่าเสื้อจะซื้อมาสต๊อคกี่ตัว ร้านที่ของน้อยๆบรรยากาศจะดูไม่น่าเข้าเท่ากับร้านใหญ่ๆ ว่ากันไหมค่ะ

สมมติ ต้นทุนเสื้อกล้ามตัวละ 25 บาท จะขายที่ราคาตัวละ 60 บาท ตลาดที่คุณเล็งไว้มีเวลาการขายอยู่ที 6 ชั่วโมง เฉลี่ยขายได้วันละ 30 ตัว เป็นเงิน 1,800 บาท ทุน 750 บาท ค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท รวมเป็น 1,150 บาท เท่ากับว่าได้กำไร 650 บาท ถ้าตลาดขายได้ทุกวันจะได้กำไรต่อสัปดาห์คือ 4,550 บาท ... คำถามคือ คุณโอเคกับรายได้นี้ไหม? ถ้าคุณโอเครายได้นี้ คุณก็อยู่ต่อได้ค่ะ ... ส่วนการสต็อคสินค้า ถ้าคุณซื้อเสื้อกล้ามครั้งละ 100 ตัว คุณจะต้องซื้อสินค้าวันเว้นวัน เพราะคุณขายไปวันละ 30 ตัว 2 วัน คุณจะเหลือเสื้อเพียง 40 ตัวเท่านั้นซึ่งไม่พอสำหรับการขายในวันที่ 3 ล่ะ

และถ้าเป็นอย่างอื่นล่ะ

สมมติ เปลี่ยนมาขายกางเกงผู้หญิงแฟชั่นต้นทุนตัวละ 100 บาท จะขายที่ราคาตัวละ 200 บาท ตลาดที่คุณเล็งไว้มีเวลาการขายอยู่ที 6 ชั่วโมง เฉลี่ยขายได้วันละ 20 ตัว เป็นเงิน 4,000 บาท ทุน 2,000 บาท ค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท รวมเป็น 2,400 บาท เท่ากับว่าได้กำไร 1,600 บาท ถ้าตลาดขายได้ทุกวันจะได้กำไรต่อสัปดาห์คือ 11,200 บาท ... การสต็อคสินค้า ถ้าคุณซื้อครั้งละ 100 ตัว คุณจะต้องซื้อสินค้าทุก 3 วัน เพราะคุณขายไปวันละ 20 ตัว 3 วัน คุณจะเหลือเสื้อเพียง 40 ตัวเท่านั้นซึ่งไม่พอสำหรับการขายในวันที่ 4

จาก 2 เคสข้างต้น คุณเห็นอะไรไหม?

คุณ จะต้องสต็อคสินค้า ... แล้วเงินทุนไปซื้อของอยู่ตรงไหน? เพราะเราหักทุนออกรายวันไป มันไม่พอไปซื้อของเพิ่มนี่ แล้วของก็จะหมดลงเรื่อยๆแล้วด้วย

เอาใหม่.....เสื้อกล้ามตัวละ 25 บาท จะขายที่ราคาตัวละ 60 บาท ตลาดที่คุณเล็งไว้มีเวลาการขายอยู่ที 6 ชั่วโมง เฉลี่ยขายได้วันละ 30 ตัว เป็นเงิน 1,800 บาท ทุน 750 บาท ค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท รวมเป็น 1,150 บาท เท่ากับว่าได้กำไรวันละ 650 บาท.....และต้องซื้อสินค้าวันเว้นวัน ทุนการซื้อสินค้า 100 ตัว 2,500 บาท
วันที่ 1 ขายได้ 1,800 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 1,400 บาท เก็บไว้ค่ะ
วันที่ 2 ขายได้ 1,800 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 1,400 บาท รวม 2 วันเป็น 2,800 บาท
...2,800 บาทนี้ต้องไปซื้อสต็อคเสื้อกล้ามใหม่อีก 100 ตัวเป็นเงิน 2,500 บาท อ้อ ระวังรายจ่ายแฝงนะคะ ไม่น้อยเลยทีเดียว ค่าน้ำมัน ค่ากิน ค่าเดินทางจิปาถะ ^^

ต่ออีกนิดนะคะ...เสื้อกล้ามยังเหลืออีก 40 ตัวสต็อคเก่า บวกของใหม่อีก 100 ตัว รวมเป็น 140 ตัว เท่ากับว่าขายวันละ 30 ตัว คุณจะขายได้ไปอีก 3 วัน แล้วค่อยไปซื้อของเพิ่ม มาดูกันจะเป็นยังไง
วันที่ 3 ขายได้ 1,800 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 1,400 บาท เก็บไว้ค่ะ
วันที่ 4 ขายได้ 1,800 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 1,400 บาท รวม 2 วันเป็น 2,800 บาท
วันที่ 5 ขายได้ 1,800 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 1,400 บาท รวม 3 วันเป็น 5,400 บาท

...3 วันขายไป 90 ตัว เหลือสินค้า 50 ตัว รายได้มีอยู่ 5,400 บาท หักซื้อสต็อคใหม่ 100 ตัว 2,500 บาท เหลือ 2,900 บาท นี่คือกำไรที่คุณใช้ได้แล้วค่ะ เท่ากับว่าต้องใช้เวลา 5 วันกับการซื้อของ 2 รอบสต็อค จึงจะเกิดกำไรขึ้นมา

ลองมาดูธุรกิจกางเกงกันบ้างค่ะ

กางเกง ผู้หญิงแฟชั่นต้นทุนตัวละ 100 บาท จะขายที่ราคาตัวละ 200 บาท ตลาดที่คุณเล็งไว้มีเวลาการขายอยู่ที 6 ชั่วโมง เฉลี่ยขายได้วันละ 20 ตัว เป็นเงิน 4,000 บาท ทุน 2,000 บาท ค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท รวมเป็น 2,400 บาท เท่ากับว่าได้กำไร 1,600 บาท ... ทุนการซื้อสินค้า 100 ตัว 10,000 บาท
วันที่ 1 ขายได้ 4,000 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 3,600 บาท เก็บไว้ค่ะ
วันที่ 2 ขายได้ 4,000 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 3,600 บาท รวม 2 วันเป็น 7,200 บาท
วันที่ 3 ขายได้ 4,000 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 3,600 บาท รวม 3 วันเป็น 10,800 บาท
... 10,800 บาทนี้ต้องไปซื้อสต็อคกางเกงใหม่อีก 100 ตัวเป็นเงิน 10,000 บาท แต่พึงระวังสินค้าแฟชั่นต้องเปลี่ยนตามกระแสไปนะคะ ถ้าตกยุคขายไม่ออกนั่นล่ะที่จะแย่แล้ว ^^

ลองดูต่ออีกนิดนะคะ...กางเกงผู้หญิงแฟชั่นยังเหลืออีก 40 ตัวสต็อคเก่า บวกของใหม่อีก 100 ตัว รวมเป็น 140 ตัว
วันที่ 4 ขายได้ 4,000 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 3,600 บาท เก็บไว้ค่ะ
วันที่ 5 ขายได้ 4,000 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 3,600 บาท รวม 2 วันเป็น 7,200 บาท
วันที่ 6 ขายได้ 4,000 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 3,600 บาท รวม 3 วันเป็น 10,800 บาท
วันที่ 7 ขายได้ 4,000 บาท หักค่าเช่าที่ กินอยู่ วันละ 400 บาท เหลือ 3,600 บาท รวม 4 วันเป็น 14,400 บาท

...4 วันขายไป 80 ตัว เหลือสินค้า 60 ตัว รายได้มีอยู่ 14,400 บาท หักซื้อสต็อคใหม่ 100 ตัว 10,000 บาท เหลือ 4,400 บาท นี่คือกำไรที่คุณใช้ได้แล้วค่ะ เท่ากับว่าต้องใช้เวลา 7 วันกับการซื้อของ 2 รอบสต็อค จึงจะเกิดกำไรขึ้นมา...และสิ่งสำคัญที่บอกไปแล้วนะคะ แฟชั่นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ต้องตามกระแสแฟชั่น และอย่างกรณีนี้ขายกางเกงเป็นฟรีไซส์ก็ดีไป แต่ถ้าเป็นระบุไซส์คุณจะต้องสต็อคแต่ละไซส์ไว้อีก

เห็นไหมค่ะว่าแค่ สินค้าคนละอย่าง ต้นทุน รายได้ กำไร ความเหนื่อยก็ต่างกันแล้ว สมมติเหตุการณ์ไปแล้ว เดี๋ยวเราต่อประสบการณ์ตัวเองอีกทีนะคะ ขอแว๊บไปกินน้ำก่อน ^^

จาก  http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12633623/B12633623.html

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์จริงคนขึ้นศาลคดี Easybuy

แนวทางรับมือเมื่อได้รับหมายศาลแบบบ้านๆ โดยคุณแก้วจ๋า ชมรมหนี้บัตรเครดิต

หมายศาลจะถุกส่งไปที่ไหน