ติดแบล็กสิส ชำระหมด ก็กู้เรื่องบ้านได้ จริงๆ

าฟังข่าวดีจ้า ติดแบล็กสิส ชำระหมด ก็กู้เรื่องบ้านได้ จริงๆ โดย mombaby เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2554, 22:03 ซึ่งยื่นเรื่องกู้ที่ธอส. สำนักงานใหญ่

กู้ ผ่านแล้วจร้า เพื่อนๆ ที่คอยลุ้นและให้กำลังใจอยู่ เราทำสำเร็จแล้วจร้า สดใสสวยงาม หลังจากปิดบัญชีไปหมดแล้ว ทุกสิ่งอย่าง วันนี้ได้รับข่าวดจากแบงค์ที่ยื่นกู้เพื่อปลูกบ้าน รื้อแล้วปลูกใหม่เลยนะคะ งบ หนึ่งล้านห้าแสนบาท ผ่านฉลุยคะ ดีใจมั๊ก ๆ
เลยอยากจะเข้ามา update ให้เพื่อน ๆ ฟังและเป็นตัวอย่างให้เพื่อนที่ ที่จะทำเรื่องกู่้ต่าง ๆ เราชำระหมดเราก็กูได้ ไม่้มีปัญหาไม่ต้องกังวล
ขึ้น ตอน
1. ปิดหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ ด้วยการแฮร์คัท หรือตามสะดวก หากเราพอมีก็ไม่ต้องไปยึดติดนะคะ ว่าเราได้ส่วนลดมาก น้อย ปิด ๆ มันไปตามความเหมาะสม แต่ละกรณีไม่เหมือนกัน
2. เข้าไปที่ เครดิตบูโร นำบัตรประชาชนไปหนึ่งไบ ไป update ข้อมูลของเรา หากมีติดอยู่ บ้างก็ปรึกษาเจ้าหน้าที่ ว่าเราควรทำอย่างไร เสียเงิน 100 บาท แล้วเค้าจะปริ้นรายละเอียดให้เรา
3. นำรายละเอียดเรื่องหนี้จากเครดิตบูโรไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่เราจะขอสินเชื่อ เค้าจะแนะนำเราเอง
4. หากเราปิดหมดแล้วนำหล้ักฐานการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ดู พร้อมจดหมายยืนยันการชำระหนี้จากเจ้าหนี้ด้วย
5. ยื่นเรื่องกับธนาคารที่ขอกู้ตามปกติ
6. รอตามขั้นตอนของธนาคาร ยื่นเอกสารเพิ่มเติมตามธนาคารขอ
7. รอ
8. ได้รับการอนุมัติสวยงาม ไม่ได้ใต้โตะหรือสินบนใด ๆ เลย

เราโชคดีมากอะ เจอเจ้าหน้าที่สินเชื่อเก่ง รวมเวลาตั้งแต่ยืนเรื่องขอกู้ถึงอนุมัติ 13 วัน สุดยอดอะ

พรุ่งนี้เข้าไปเซ็นสัญญาละ เป็นหนี้ต่อก้อนใหญ่ แต่ก็สบายใจและเต็มใจที่จะเป็นหนี้ก้อนนี้
จะรีบใช้ให้หมดเร็ว ๆ และสัญญาว่าจะไม่มีบ้ตรเครดิตอีกต่อไป

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ให้กำลังใจนะคะ รวมถึงคุณกอบัวด้วยสุดยอดอะเก็บกระทู้เราไว้หมด

ขอให้เพื่อนๆ สบายใจได้ดูเราเป็นตัวอย่างนะคะ ใจสู้หรือเปล่า ไหวมั้ยบอกมา โอกาสของผู้กล้า >>>>>>


และอีกเรื่องหนึ่ง

ายืนยันข้อมูลและเพิ่มเติมความมั่นใจให้เพื่อนๆ ครับว่า หากเราชำระหนี้หมดแล้ว จ่ายหนี้หมดทุกใบ แต่ยัง
1. ติด blacklist
2. ติด เครดิตบูโร

คุณกู้ซื้อบ้านได้จริงๆ ครับ โดยคุณ freedom_life เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 54, 22:12

เพราะ แรงบันดาลใจ รวมถึงความมุ่งมั่นส่วนสำคัญในการปลดหนี้ของผมคือ อยากมีบ้านครับ ลองตรวจหรือยื่นกู้ที่สถาบันการเงินไหนๆ ตอนนั้นก็ไม่ผ่านสักที่ มีแต่คำแนะนำให้ไปจ่ายหนี้ให้หมดแล้วมา "ลอง" ยื่นกู้ใหม่อีกครั้ง

นั่นเลยเป็นที่มาของการชำระสะสางบัญชีหนี้ทั้ง หมดที่มีอยู่เพื่อ "บ้าน" และอนาคตตัวเองและเห็นกระทู้ของคุณ mombaby แห่งนี้และอ่านเรื่องราวของคุณจุงหลิง ก็ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นว่ายังไงตัวเองก็กู้ผ่านแน่ๆ
ยิ่งพี่กอบัวมาตอกย้ำคำพูดของคุณ Pikolo ยิ่งทำให้มีความหวังสุดๆ

และวันนี้ก็ทำได้สำเร็จครับ กู้บ้านผ่านเรียบร้อย และเซ็นสัญญาเรียบร้อยเหลือแต่บ้านเสร็จอย่างเดียว ตอนนี้ก็รอโอนครับ !!!!

ผมทราบผลมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ว่ายังไม่ได้มาเขียนเพราะอยากให้มั่นใจจนกว่าจะได้เซ็นสัญญาก่อนถึงจะมาแจ้งผล

แบงค์ แรกที่ผมยื่นกู้คือ ไทยเครดิต ที่ปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้มีปัญหาติดเครดิตบูโร ผมติดต่อตอนที่จองบ้าน ก็ให้คำแนะนำในการปิดว่าต้องปิดทั้งหมด เหลือไว้ไม่ได้ ยังไงก็ไม่ผ่านแน่ๆ หากปิดไม่หมด พอปิดหมดส่งเอกสารให้ ก็ผ่านครับ แต่เสียค่าใช้จ่ายเยอะ ทั้งค่าประเมิน ค่าดำเนินการต่างๆ และที่สำคัญได้ดอกเบี้ยพิเศษครับ คือ สูงกว่าธนาคารอื่นๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเราก็ต้องยอมเพราะเค้ามีความเสี่ยงจากพฤติกรรมของเราใน อดีต ดังนั้นก็ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายแพงกว่าคนอื่น อ้อ !! ได้วงเงินแค่ 90 %

แต่ชีวิตเรามีทางเลือก ผมปรึกษาพี่ๆ น้องๆ ที่อยู่ในวงการการเงินรวมถึงข้อมูลจากสมาชิกในบอร์ดดังที่กล่าวมา ก็คิดว่าเราลองยื่นกู้ที่ธนาคารอื่นๆ ก็ไม่เสียหายหากได้ก็จะเป็นผลดีกับเรา ผลเสียไม่มี เพราะยังไงก็มีไทยเครดิตที่ได้แน่ๆ อยู่แล้ว

ดังนั้น ผมจึงเตรียมเอกสารยื่นกู้อีกครั้งและแจ้งทางฝ่ายขายโครงการให้ยื่นกู้ทุก ธนาคารที่โครงการติดต่ออยู่ ไม่เกินสามวันที่ยื่นก็ได้รับการติดต่อจาก SCB และผ่านมาถึงวันนี้ก็ทำนิติกรรมสัญญาเสร็จเรียบร้อยประมาณสองสัปดาห์ นอกจากนี้ก็มีที่อื่นติดต่อเข้ามาอีกผมก็รอแค่คำตอบเท่านั้นเองว่าจะได้เท่า ไหร่ เปรียบเทียบดอกเบี้ยเท่านั้นครับ

ที่ SCB ผมได้ 100 % เต็มวงเงินที่ขอกู้ !!!!

ทั้ง หมดนี้หักล้างคำพูดที่บอกว่าจ่ายหมดแล้วแต่ยังติดเครดิตบูโร หรือติดแบล๊คลิส กู้อะไรก็ไม่ผ่าน ซึ่งไม่จริง หากเรามีหน้าที่การงานที่มั่นคง เดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ รายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านฉลุยครับ

เอกสารปิดหนี้ที่ผมยื่นประกอบ จัดเรียงเป็นชุดๆ ดังนี้ครับ
1. หนังสือยืนยันเงื่อนไขการชำระหนี้ ที่กรรมการย้ำนักย้ำหนาว่าต้องมีๆๆ ไม่มีไม่จ่าย
2. เอกสารการชำระเงิน ต้องเขียนใบ pay in ด้วยตัวเองทุกครั้ง ลงชื่อผู้จ่ายให้ชัดเจน
3. หนังสือยืนยันปิดภาระหนี้ อาจจะไม่จำเป็นก็ได้เพราะแค่ 1-2 ก็พอ แต่เพื่อความมั่นใจใส่เพิ่มไว้ก่อน

ทั้งหมดนี้ผมเย็บเรียงลำดับเป็นชุดๆ ส่งให้ธนาคาร

เพื่อนๆ ที่กำลังคิดจะทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินสบายใจได้เลยครับ ชำระหนี้หมด ฟ้าเปิดแน่นอน ไม่ต้องรอถึงสองปีอย่างที่เค้าว่ากัน

จาก http://www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=1372&Itemid=29#9124

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์จริงคนขึ้นศาลคดี Easybuy

แนวทางรับมือเมื่อได้รับหมายศาลแบบบ้านๆ โดยคุณแก้วจ๋า ชมรมหนี้บัตรเครดิต

หมายศาลจะถุกส่งไปที่ไหน