บทความ

» กรณีศึกษา : จากหนี้บัตรเครดิต 14 ใบ สู่จุดเปลี่ยนชีวิต...จนผ่านพ้นมรสุม

» กรณีศึกษา : จากหนี้บัตรเครดิต 14 ใบ สู่จุดเปลี่ยนชีวิต...จนผ่านพ้นมรสุม โทรศัพท์รุ่นใหม่...ผลิตภัณฑ์หน้าใสเสริมความงาม...กระเป๋ารองเท้าตาม แฟชั่น...เสื้อผ้าแบรนด์ดังขึ้นป้ายลดราคา และสารพันสินค้าที่โลกโฆษณากระหน่ำเชิญชวนให้อยากเป็น เจ้าของ ...คือ `หลุมพราง´ ที่สาว ๆ ยุคใหม่หลายคนยินยอมพร้อมใจก้าวเข้าไปเป็นเหยื่อ แต่เมื่อเงินที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่จะครอบครองสิ่งของนอกกายเหล่า นั้น..."บัตรเครดิต" สารพัดเจ้า ก็เลยกลายเป็นเพื่อนยามยากให้เราได้พึ่งพายามต้องการใช้เงินในอนาคต และ "จินตนา เอกสุข" เธอผู้นี้ก็คือหนึ่งในทาสของบัตรรูดปรื๊ด :::::::::::::::::: • เป็นเศรษฐีนี...ด้วยบัตรสิบสี่ใบ! สินค้าเสริมภาพลักษณ์ให้ดูดีจำนวนมากถูกซื้อด้วยบัตรเครดิต 14 ใบ ที่เซ็นชื่อ "จินตนา เอกสุข" มนุษย์เงินเดือนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่ทุกเย็นหลังเลิกงานมีกิจวัตรคือการเดินช้อปปิ้งในห้างดัง และทานอาหารร้านหรูมีระดับ เธอบอกว่า เมื่อ 8 ปีก่อน เธอใช้เงินอย่างไร้สติมาก ทำบัตรเครดิตหลายสิบบริษัท ตามค่านิยมผิด ๆ ที่เธอคิดไปเองว่า การได้ไปอยู่ในสังคมดี ๆ กินอ

ทำไมผมถึง"ไม่กล้า"เล่นหุ้น (เขียนตอนหุ้นกำลังขึ้น..12กย.2556)

ทำไมผมถึง"ไม่กล้า"เล่นหุ้น (เขียนตอนหุ้นกำลังขึ้น..12กย.2 556) อย่างที่เคยเล่า...ผมเป็นประธาน บริษัทหลักทรัพย์ที่คนเค้าเบื่อ มาก เพราะใครถามเรื่องหุ้น ก็ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวกับใครเ ขาเลย บางคนหาว่าอมภูมิไปโน่นเลยก็มี ทั้งๆที่ความจริงผมไม่รู้จริงๆว ่าหุ้นรายตัว เวลาไหนเป็นอย่างไร แถมส่วนมากไม่รู้จักหุ้นที่คนถา มเลยด้วยซำ้ แต่ถ้าเรื่องของตลาดทุนโดยรวม เรื่องของกลยุทธธุรกิจในตลาดทุน ผมก็จะโม้ไ ด้ว่าเรียนมาเยอะ ทำมาเยอะ (กระนั้นก็พูดได้ว่ารู้บ้าง อย่าว่าแต่รู้หมดเลยครับ รู้มากยังไม่กล้าอ้างเลย) ก็เพราะผมไม่"เล่นหุ้น"นี่ครับ แถมแทบจะไม่ได้แม้แต่จะ"ลงทุน"ใ นหุ้นรายตัวเลยด้วยซำ้ ไม่โกหกว่ามีการซื้อบ้าง นานๆครั้งเมื่อเกิดมีข้อมูลที่น ่าสนใจ(ที่รับรองว่าไม่ใช่insid e ผิดกม.) และซื้อทีก็ไม่เคยขายก่อนหนึ่งป ี ในบัญชีหุ้นผมตอนนี้ มีหุ้นKKP หุ้นเดียวเท่านั้น ที่ได้มาเพราะการแลกหุ้นจากหุ้น ภัทร ที่ถือมาตั้งแต่ปี 2003 เพราะทำManagement Buy Out ทำไมคนทำงานตลาดหุ้นไม่เชื่อมั่ นตลาดไทยหรือ...เปล่าครับ ผมมีเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่เ คยน้อยกว่า ร้อย

หกเหตุผล ทำไมเราไม่ควร"เล่นหุ้น"ด้วยตัวเอง. (เขียนวันหุ้นแกว่ง...13กย.2556) by คุณ Banyong Pongpanich

หกเหตุผล ทำไมเราไม่ควร"เล่นหุ้น"ด้วยตัวเอง. (เขียนวันหุ้นแกว่ง...13กย.2556) เมื่อวานผมเขียนเล่าประสพการณ์โง่ๆในอดีตของตัวเองเกี่ยวกับตลาดหุ้น ตอนเริ่มเขียนหลังข้าวเที่ยง ตลาดยังบวกสี่ห้าจุด เลยวงเล็บไว้ว่า เขียนเมื่อวันหุ้นขึ้น บ่ายติดประชุม มาเขียนต่อตอนเย็น ไม่ได้ดูว่าตลาดปิดยังไง(ก็ไม่ได้เล่นหุ้นนี่ครับ) เช้าขึ้นมาถึงได้เห็นว่าติดลบกว่า สิบสามจุด เกือบหนึ่งเปอร์เซ็น(เปอร์เซ็นละแสนล้านบาทเศษ) เห็นมะครับ ...ฝีมือพยากรณ์...แค่สามชั่วโมงยังใบ้ผิด แล้วดันเคยริอ่านอยากจะเป็นเซียน น่าหัวร่อนัก (วันนี้เริ่มเขียนเช้า เลยบอกว่าหุ้นจะแกว่ง น่าจะถูก...ถ้าไปทางเดียว...ผิดอีก จะเลิกเขียนเรื่องหุ้นซักเดือน) ผมบอกไปแล้วว่า ในตลาดที่พัฒนาแล้ว คนส่วนใหญ่จะลงทุนผ่านกลไกการจัดการลงทุนมืออาชีพ ไม่เข้ามาซื้อขายหุ้นโดยตรง กลไกพวกนี้ได้แก่ กลุ่มที่เป็นcaptive เช่น Pension Funds, Provident Fundsไปถึงพวกสมัครใจ เช่น Mutual Funds, Insurances, Hedge Funds และกลุ่มอื่นๆ เช่น Endowment Funds ของมหาลัย มูลนิธิต่างๆ มีสินทรัพย์รวมกันมากกว่า US$ 80 ล้านล้าน เท่ากับ 2,500ล้

ชีวิตหนี้เป็นหนี้ทองคำ

ชีวิตนี้เป็นหนี้ทองคำ --------------------- วรวรรณ ธาราภูมิ 13 กันยายน 2556 (เคยเขียนไว้เมื่อ 18 ธันวาคม 2554) ลุงมาร์ค ฟาเบอร์ เจ้าของฉายา Dr.Doom เคยเล่าเรื่องของ Marion Szablicki ผู้เป็นปู่ของลุงมาร์ค และเราจะเรียกท่านว่า “ปู่มาคิยง” ซึ่งหากเป็นคนจีนเราก็คงจะเรียกท่านว่า ย้งเล่ากง ลุงมาร์ค เล่าว่า การเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของลุงเริ่มตั้งแต่ลุงยังเป็นลูกเจี๊ยบ และครูคนแรกก็คือ ย้งเล่ากง นี่เอง น่าสนใจจริงๆ เพราะปู่มาคิยง หรือ ย้งเล่ากง สอนลุงมาร์ค เรื่อง “คุณค่าของทองคำ” เป็นเรื่องหลักเลยละ ทำให้นึกไปถึงคุณทวดของเราเองที่บ้านอยุธยา เพราะตอนเรายังเป็นลูกเจี๊ยบ คุณทวดจะจับไปนั่งตัก ปั้นข้าวสุกร้อนๆ เป็นคำเล็กๆ ใส่ปาก แล้วตามด้วยเกลือเม็ดเล็กๆ ให้แทะ ในระหว่างนั้น คุณทวดก็จะเล่าเรื่องพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ ๕) เล่าเรื่องชาดกเก่าๆ แบบสุวรรณสาม ยอพระกลิ่น เล่าเรื่องประวัติบรรพบุรุษ และเรื่องการรู้จักหากับวิธีเก็บรักษาเงินโดยสั่งสอนให้สะสมเป็นทองคำไว้ เผื่อเกิดสงคราม เพราะค่าเงินจะลดฮวบฮาบ แต่ค่าทองตรงกันข้าม ใครที่เคยเหยียดหยาม ดูหมิ่น ว่าคนโบราณเป็นไดโน

7 เคล็ดลับ เพื่อสุขภาพการเงินที่ดี

7 เคล็ดลับ เพื่อสุขภาพการเงินที่ดี นอกเหนือจากสุขภาพกายที่ดีแล้ว สุขภาพการเงินที่แข็งแกร่งมั่นคง คงเป็นเรื่องที่ทุกคนใฝ่ฝัน   คุณสามารถเป็นเจ้าของสุขภาพการเงินที่ดีได้ถ้าใจมุ่งมั่นซะอย่าง 1.        ประกาศเจตนารมณ์การออม   ออมเงินอย่างจริงจัง หันมาใช้ชีวิตแบบ ออมก่อน ใช้ทีหลัง โดยออมให้พอเหมาะพอดี ไม่ตึงหรือไม่หย่อนจนเกินไป 2.        แยกระหว่าง ความจำเป็น กับ ความอยาก ก่อนตัดสนใจซื้อของชิ้นหนึ่ง ให้หยุดคิดและชั่งใจว่าของชิ้นนั้นเป็นของจำเป็น หรือแค่อยากได้หากซื้อแล้วคุ้มค่าหรือไม่ ได้ใช้หรือเปล่า 3.        สำรองเงินยามฉุกเฉิน อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ การเตรียมเงินสำรองเอาไว้ก่อนหนึ่งเพื่อรับมือกับเรื่องฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรกระทำอย่างยิ่ง 4.        จดทุกรายการรับจ่าย รุ้เท่าทันสถานการณ์ทางการเงินจะช่วยให้คุณสามารถตัดค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปได้ 5.        มุ่งมั่นใช้หนี้ หนี้จะทำให้ภูมิคุ้มกันทางการเงินของคุณย่ำแย่ลง พยายามปลดหนี้ เพื่อเดินไปสู่อิสรภาพทางการเงินโดยเร็ว 6.        หาทางเพิ่มรายได้ ค้นหาความสามารถของตนเอง เพื่อ

เงินเดือนเท่านี้ กู้ได้เท่าไหร่

รูปภาพ
อันนี้เอามาฝากจาก กสิกรนะครับ ซึ่งเป็นการคำนวณคร่าวๆ นะครับ คำว่ารายได้ ไม่ใช่เงินเดือนนะครับ ต้องเป็นรายได้หลังจากหักประกันสังคม ภาษี และอื่นๆ รับเน็ตๆในสลิปเท่าไหร่ หลังจากนั้น ธนาคารก็จะดูว่าคุณมีหนี้สินอันอื่นอีกหรือไม่ เช่น ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนสินเชื่อเงินสด ก็ต้องนำมาหักออก ควรเคลียร์หนี้สินออกจากบูโรให้ได้มากที่สุดก่อนกู้นะครับ จะได้กู้ผ่านได้ง่ายๆ นกน้อยทำรังแต่พอตัวครับ เป็นหนี้แต่พอดี  แล้วชีวีจะมีความสุขครับ

กู้สร้างอพาร์ทเม้นต์

คำถามเรื่อง สินเชื่ออพาร์ทเม้นท์ เข้าไปตอบในกระทู้ไม่ได้ ตอบตรงนี้ล่ะกันนะ กระทู้คำถาม สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย การให้สินเชื่อเกี่ยวกับอพาร์ทเม้นท์ กรณีขอกู้ทั้ง ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1. สัดส่วนการลงทุน คุณ 40 : 60 ฺBank อย่างมากไม่เกิน 30 : 70 2. คุณต้องแสดงให้ Bank เห็นอย่างชัดเจน 40% ของคุณเอามาจากไหน  (ธนาคารบางแห่ง อาจจะอายัดเงินไว้ ป้องกันโครงการล้ม)               เรื่องที่ดิน ธนาคารจะจ่ายเงินให้คุณเป็นงวด ๆ ตามค่างานที่เกิดขึ้นจริง เช่น งวดแรกค่าที่ดิน 1 ล้าน Bankจะให้ 600,000 บาท ที่เหลือคุณก็จ่าย ส่วนโฉนดที่นำไปจดจำนอง เป็นหลักประกันไป                เรื่องสิ่งปลูกสร้าง 1. การเขียนแบบ คุณจะต้องหาสถาปนิกมาเขียนแบบอาคาร เพื่อนำมาคำนวณเพื่อประมาณหาค่าก่อสร้าง BOQ (ไอนี่สำคัญมาก เซ็นต์รับรองไว้หลายชุดหน่อย Bank ขอแน่ ๆ) ตลอดจนการขออนุญาติ จริง ๆ ข้อนี่คุณต้องไปทำก่อนแล้วนะ.... เพราะใช้เวลานาน ยิ่งถ้าไปเจอสถาปนึก 5555+ ไม่ต้องกังวล มานเบิกเงินคุณก่อนแน่ 50% กว่าพี่ท่านจะเขี