ประสบการณ์ Hair Cut และการปิดหนี้ และอายัดเงินเดือน
ประสบการณ์ Hair Cut และการปิดหนี้ และอายัดเงินเดือน
ครอบครัวเป็นหนี้บัตร+สินเชื่อ
ราวๆ
1 .6 ล้าน (ยังไม่รวมหนี้กู้ซื้อบ้านที่เหลืออีก
1.4 ล้านถ้ารวมๆก็ หนี้ 3 ล้าน )
เริ่มเป็นหนี้ตั้งแต่เริ่มมีลูกและมีเรื่องไม่คาดฝันอีกมากที่ต้องใช้เงิน รวมถึงการใช้เงินเกินตัว ใช้เงินในอนาคต ที่เราเข้าใจผิดว่าเป็นเงินของเราแต่จริงๆมันคือเงินของธนาคาร
กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นหนี้หนักและผ่อนชำระไม่ไหวก็ต่อเมื่อ บัตรทุกบัตรเต็มวงเงินใช้เวลา หมุนกู้ธนาคารโน้นโปะหนี้ ธนาคารนี้ แล้วจ่ายขั้นต่ำ 4 ปีเต็ม เล่นเอาเป๋กันเลยทีเดียว ช่วงหยุดจ่ายช่วงแรก ธนาคารโทรกระหน่ำทวงยิกๆ ยิ่งเป็นหนี้ 20 รายการ จัดได้ว่าได้รับโทรศัพท์ทวงหนี้ "ทุกวัน" วันละ 2-3 รอบ สลับเจ้าหนี้โทรมา บางเจ้ามีคนไปจอดมอเตอร์ไซค์รอดักหน้าบ้านเลยทีเดียว ช่วงนั้นเราก็กลัวนะ แฟนเครียดขนาดคิดจะกระโดดตัดหน้ารถ ให้รถชนเอาเงินประกัน แต่ไม่ได้ทำ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือ เครียดมากไม่มีความสุข ป่วย เราลาออกจากงานเนื่องจากมีปัญหาคนดูแลลูก แฟนเราก็เครียดไม่ค่อยมีสติรถชนคนอีกโชคดีไม่มีใครตายแต่ก็เสียเงินไปอีกเป็นแสน ย่ำแย่จนต้องจดทะเบียนหย่า ขายรถ ย้ายไปอยู่คอนโดเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินทาง และหนีพวกตามทวงหนี้ด้วย (ช่วงนั้นยังไม่เจอชมรมนี้ มือแปดด้านเลยทีเดียว) กรรมนี้ เกิดจากการกระทำ ของเราเอง ดังนั้นเราต้องชดใช้มัน ครึ่งปีแรกเหมือนอยู่ในนรก เพราะไม่สบายใจทั้งวัน
ต้องขอบคุณชมรมนี้ และพี่นกกระจอกเทศที่แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ช่วยให้ชำระหนี้ได้อย่างมีกำลังใจ เราเริ่มด้วยการหยุดจ่ายทุกอย่างตามคำแนะนำ ประหยัดมากขึ้น ไปห้างน้อยลง ไม่เที่ยวไกล ย้ายที่อยู่ไปใกล้ รร.ลูกและที่ทำงานเพื่อลดค่าเดินทาง (การขายรถและย้ายที่อยู่ ช่วยประหยัดค่าน้ำมันและค่าทางด่วนได้เดือนละหมื่น) ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น ไม่ตามเทรน หางานพิเศษเสริมได้เดือนละ 3-8 พันบาท
ครอบครัวเป็นหนี้กว่า 20 รายการ ตั้งแต่หยุดจ่าย และเริ่มปิดหนี้ 4 ปีผ่านไป รวมอยู่ในวงจรอุบามว์นี้ 8 ปีแล้ว (สร้างหนี้ 4ปี ปลดหนี้ 4ปี) ปัจจุบันปิดไปได้ไม่ถึงครึ่ง แต่ก็ยังดำเนินต่อไป เล่าประสบการณ์ ปิดหนี้คร่าวๆ บางรายการเป็นกำลังใจให้นะคะเราปิดหนี้ได้ตามสภาพ
เนื่องจากทั้งครอบครัว 3 ชีวิต มีสามีทำงานคนเดียว แถมเงินเดือนโดนยึดยาวมา2 ปีกว่าแล้วอีกต่างหากแนวโน้มน่าจะยังโดนยึดต่อเนื่อง เราเองก็รับจ๊อบเล็กๆน้อยๆรายได้ประมาณ 3-8 พันบาทต่อเดือน ลูกเรียนชั้นประถม รร.เอกชนระดับกลาง เหลือเงินสดหมุนเวียนในรอบครัวเดือนละประมาณ 4.5 หมื่นบาท แต่เรายังใช้ชีวิตได้ปรกติไม่ถึงกับย่ำแย่มาก อยากให้คิดเสมอว่าอย่าเครียดเป็นหนี้ธนาคารไม่ตาย (ยกเว้นหนี้นอกระบบ) เราต้องมีชีวิตให้ดี และหาความสุขให้ตัวเองบ้าง เพื่อมีกำลังไปหาเงินใช้หนี้
- หนี้บัตร กรุงเทพ ประมาณ 60,000++ บาท แฟนโดนดูดเงินเดือน (บังเอิญบัญชีเงินเดือนเป็นของ ธ.กรุงเทพ) เหลือในบัญชี 0 บาท - -" โหดมากตกใจเลยเดือนนั้นไม่มีเงินในครอบครัวเหลือเลย ต้องไปเจรจาขอผ่อน สรุปคืนเงินมาให้แค่ 20,000 ในเดือนนั้น และผ่อนจ่าย ยอดที่เหลือ 2 งวด ไม่มีส่วนลดใดๆ เสียเวลาไปธนาคาร 2 รอบ ปิดไปเรียบร้อย เสียเงินปิดหนี้ไปราวๆ 64,000 บาท
- หนี้บัตรกรุงศรี ปนะมาณ 60,000++ บาท หลังจากหยุดจ่ายเจ้าหน้าที่น่ารักมากเจรจา ปิดหนี้ Hair CUT ที่ 35,000 ตั้งใจจะปิดจริงๆ แต่บังเอิญโดน ธ.กรุงเทพดูดเงินเดือนนั้นพอดี สัญญาถูกยกเลิก ปัจจุบันยังไม่ได้จ่าย คดียังค้างอยู่
- หนี้สินเชื่อทหารไทย 100,000++ ธนาคารลืมฟ้อง หมดอายุความ ล่าสุดขึ้นศาลทำเรื่องยกฟ้องไป ทนายธนาคารกระแนะกระแหนขอให้มีสามัญสำนึกในการใช้หนี้ ...ที่ตลกคือ มีจดหมายปลอมจากบริษัททนายบอกเป็นตัวแทนธนาคาร ส่งมาบอกจะดำเนินคดีให้ติดต่อกลับเพื่อจ่ายหนี้ แต่่...คิดว่าคงไม่ได้จ่ายแล้ว เพราะคิวอื่นๆอีกยาว
- หนี้สินเชื่อ CITY 100,000++ ผ่อนได้ส่วนนึงจำไม่ได้ว่าเหลือเท่าไหร่ แต่เจ้าหน้าที่พูดจาดีเลยทำประนอมหนี้สินเชื่อศุภฤกษ์ผ่อนชำระ เดือนละ 2,000 ยอดสุดท้าย เหลือประมาณ 17,000 หยุดชำระ 3 เดือน ปิดหนี้ Hair CUT เดือนนี้ ที่ 12,000 บาท (ลดให้ 30%)
- บ้านผ่อนได้ 9 ปี เหลือหนี้ที่ติดกู้ UOB 1.4 ล้าน โดนโอนหนี้ไป BAM เนื่องจากผ่อนๆหยุดๆ (มีสิทธิ์โดนยึดขายทอดตลาด) รอเค๊าติดต่อกลับเรื่องปรับโครงสร้างหนี้บ้าน
**********************************************************
ว่าด้วยเรื่องโดนอายัดเงินเดือน แฟนโดนอายัด 3 รอบละ - หนี้บัตรกรุงไทย 200,000 ( 9 เดือน โดนอายัดไปรวมๆเกือบ 3 แสน) / หนี้บัตร CITI 200,000 (โดนไปอีก 9 เดือน) รอบปัจจุบันเพิ่งมาเดือนนี้ หนี้บัตร SCB 100,000 ไม่รู้งวดหน้าจะเป็นธนาคารไหนมาอายัดต่อ
ตัวอย่างสลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด ต.ค. 2562 เจ้าหนี้รายที่3
เริ่มเป็นหนี้ตั้งแต่เริ่มมีลูกและมีเรื่องไม่คาดฝันอีกมากที่ต้องใช้เงิน รวมถึงการใช้เงินเกินตัว ใช้เงินในอนาคต ที่เราเข้าใจผิดว่าเป็นเงินของเราแต่จริงๆมันคือเงินของธนาคาร
กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นหนี้หนักและผ่อนชำระไม่ไหวก็ต่อเมื่อ บัตรทุกบัตรเต็มวงเงินใช้เวลา หมุนกู้ธนาคารโน้นโปะหนี้ ธนาคารนี้ แล้วจ่ายขั้นต่ำ 4 ปีเต็ม เล่นเอาเป๋กันเลยทีเดียว ช่วงหยุดจ่ายช่วงแรก ธนาคารโทรกระหน่ำทวงยิกๆ ยิ่งเป็นหนี้ 20 รายการ จัดได้ว่าได้รับโทรศัพท์ทวงหนี้ "ทุกวัน" วันละ 2-3 รอบ สลับเจ้าหนี้โทรมา บางเจ้ามีคนไปจอดมอเตอร์ไซค์รอดักหน้าบ้านเลยทีเดียว ช่วงนั้นเราก็กลัวนะ แฟนเครียดขนาดคิดจะกระโดดตัดหน้ารถ ให้รถชนเอาเงินประกัน แต่ไม่ได้ทำ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือ เครียดมากไม่มีความสุข ป่วย เราลาออกจากงานเนื่องจากมีปัญหาคนดูแลลูก แฟนเราก็เครียดไม่ค่อยมีสติรถชนคนอีกโชคดีไม่มีใครตายแต่ก็เสียเงินไปอีกเป็นแสน ย่ำแย่จนต้องจดทะเบียนหย่า ขายรถ ย้ายไปอยู่คอนโดเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินทาง และหนีพวกตามทวงหนี้ด้วย (ช่วงนั้นยังไม่เจอชมรมนี้ มือแปดด้านเลยทีเดียว) กรรมนี้ เกิดจากการกระทำ ของเราเอง ดังนั้นเราต้องชดใช้มัน ครึ่งปีแรกเหมือนอยู่ในนรก เพราะไม่สบายใจทั้งวัน
ต้องขอบคุณชมรมนี้ และพี่นกกระจอกเทศที่แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ช่วยให้ชำระหนี้ได้อย่างมีกำลังใจ เราเริ่มด้วยการหยุดจ่ายทุกอย่างตามคำแนะนำ ประหยัดมากขึ้น ไปห้างน้อยลง ไม่เที่ยวไกล ย้ายที่อยู่ไปใกล้ รร.ลูกและที่ทำงานเพื่อลดค่าเดินทาง (การขายรถและย้ายที่อยู่ ช่วยประหยัดค่าน้ำมันและค่าทางด่วนได้เดือนละหมื่น) ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น ไม่ตามเทรน หางานพิเศษเสริมได้เดือนละ 3-8 พันบาท
ครอบครัวเป็นหนี้กว่า 20 รายการ ตั้งแต่หยุดจ่าย และเริ่มปิดหนี้ 4 ปีผ่านไป รวมอยู่ในวงจรอุบามว์นี้ 8 ปีแล้ว (สร้างหนี้ 4ปี ปลดหนี้ 4ปี) ปัจจุบันปิดไปได้ไม่ถึงครึ่ง แต่ก็ยังดำเนินต่อไป เล่าประสบการณ์ ปิดหนี้คร่าวๆ บางรายการเป็นกำลังใจให้นะคะเราปิดหนี้ได้ตามสภาพ
เนื่องจากทั้งครอบครัว 3 ชีวิต มีสามีทำงานคนเดียว แถมเงินเดือนโดนยึดยาวมา2 ปีกว่าแล้วอีกต่างหากแนวโน้มน่าจะยังโดนยึดต่อเนื่อง เราเองก็รับจ๊อบเล็กๆน้อยๆรายได้ประมาณ 3-8 พันบาทต่อเดือน ลูกเรียนชั้นประถม รร.เอกชนระดับกลาง เหลือเงินสดหมุนเวียนในรอบครัวเดือนละประมาณ 4.5 หมื่นบาท แต่เรายังใช้ชีวิตได้ปรกติไม่ถึงกับย่ำแย่มาก อยากให้คิดเสมอว่าอย่าเครียดเป็นหนี้ธนาคารไม่ตาย (ยกเว้นหนี้นอกระบบ) เราต้องมีชีวิตให้ดี และหาความสุขให้ตัวเองบ้าง เพื่อมีกำลังไปหาเงินใช้หนี้
- หนี้บัตร กรุงเทพ ประมาณ 60,000++ บาท แฟนโดนดูดเงินเดือน (บังเอิญบัญชีเงินเดือนเป็นของ ธ.กรุงเทพ) เหลือในบัญชี 0 บาท - -" โหดมากตกใจเลยเดือนนั้นไม่มีเงินในครอบครัวเหลือเลย ต้องไปเจรจาขอผ่อน สรุปคืนเงินมาให้แค่ 20,000 ในเดือนนั้น และผ่อนจ่าย ยอดที่เหลือ 2 งวด ไม่มีส่วนลดใดๆ เสียเวลาไปธนาคาร 2 รอบ ปิดไปเรียบร้อย เสียเงินปิดหนี้ไปราวๆ 64,000 บาท
- หนี้บัตรกรุงศรี ปนะมาณ 60,000++ บาท หลังจากหยุดจ่ายเจ้าหน้าที่น่ารักมากเจรจา ปิดหนี้ Hair CUT ที่ 35,000 ตั้งใจจะปิดจริงๆ แต่บังเอิญโดน ธ.กรุงเทพดูดเงินเดือนนั้นพอดี สัญญาถูกยกเลิก ปัจจุบันยังไม่ได้จ่าย คดียังค้างอยู่
- หนี้สินเชื่อทหารไทย 100,000++ ธนาคารลืมฟ้อง หมดอายุความ ล่าสุดขึ้นศาลทำเรื่องยกฟ้องไป ทนายธนาคารกระแนะกระแหนขอให้มีสามัญสำนึกในการใช้หนี้ ...ที่ตลกคือ มีจดหมายปลอมจากบริษัททนายบอกเป็นตัวแทนธนาคาร ส่งมาบอกจะดำเนินคดีให้ติดต่อกลับเพื่อจ่ายหนี้ แต่่...คิดว่าคงไม่ได้จ่ายแล้ว เพราะคิวอื่นๆอีกยาว
- หนี้สินเชื่อ CITY 100,000++ ผ่อนได้ส่วนนึงจำไม่ได้ว่าเหลือเท่าไหร่ แต่เจ้าหน้าที่พูดจาดีเลยทำประนอมหนี้สินเชื่อศุภฤกษ์ผ่อนชำระ เดือนละ 2,000 ยอดสุดท้าย เหลือประมาณ 17,000 หยุดชำระ 3 เดือน ปิดหนี้ Hair CUT เดือนนี้ ที่ 12,000 บาท (ลดให้ 30%)
- บ้านผ่อนได้ 9 ปี เหลือหนี้ที่ติดกู้ UOB 1.4 ล้าน โดนโอนหนี้ไป BAM เนื่องจากผ่อนๆหยุดๆ (มีสิทธิ์โดนยึดขายทอดตลาด) รอเค๊าติดต่อกลับเรื่องปรับโครงสร้างหนี้บ้าน
**********************************************************
ว่าด้วยเรื่องโดนอายัดเงินเดือน แฟนโดนอายัด 3 รอบละ - หนี้บัตรกรุงไทย 200,000 ( 9 เดือน โดนอายัดไปรวมๆเกือบ 3 แสน) / หนี้บัตร CITI 200,000 (โดนไปอีก 9 เดือน) รอบปัจจุบันเพิ่งมาเดือนนี้ หนี้บัตร SCB 100,000 ไม่รู้งวดหน้าจะเป็นธนาคารไหนมาอายัดต่อ
ตัวอย่างสลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด ต.ค. 2562 เจ้าหนี้รายที่3
รอบนี้เป็นงวดแรกจะหักหนักมาก... เดือนนี้เหลือเงินในครอบครัว 16,000 กว่าๆ เดี๋ยวต้องไปทำเรื่องขอลดหย่อนกับกรมบังคับคดีอีกแล้วสิ...
น่าจะโดนยึดไปอีก 3-4 เดือน ก่อนเจ้าหนี้รายที่ 4 จะเรียงคิวอายัด
โหดมากเงินเดือนเท่าไหร่ไม่รู้ ... จะเงินเดือน 30,000 หรือ 300,000 จะอายัดเหลือขั้นต่ำให้ประมาณ 20,000 บาทเท่านั้น และถ้ามีโบนัสก็จะอายัดโบนัสด้วย คนที่เงินเดือนน้อยก็โชคดีไป แฟนโดนไปรอบแรกโดนอายัดเหลือในบัญชี+หักส่วนสะสมของบริษัท เหลือไม่ถึง 20,000 บาท ใช้ทั้งครอบครัวจะไหวได้ยังงัย? ก็ต้องทำเรื่องขอลดหย่อนที่กรมบังคับคดี และต้องไปขอทุกครั้งที่ธนาคารต่อคิวมาอายัด กรมบังคับคดีปรับลดให้ที่หักให้ประมาณ 30% ในเดือนถัดไป สรุป อายัดเงินเดือน เป็นการจ่ายหนี้ที่หนักที่สุด แพงที่สุดไม่มีส่วนลด ***ใครที่ยังไม่โดนยึดเงินเดือน รีบๆเก็บเงินเสียนะ เพราะเวลาถูกยึดแล้วจะไม่ค่อยเหลือเงินเก็บไว้ปิดหนี้อื่น*****
เอกสารตัวอย่างการขอลดหย่อนอายัดเงินเดือน ของกรมบังคับคดี (ไปทำมาเมื่อวาน... )
เวลาไปยื่นเรื่องให้เตรียมเอกสารขอลดหย่อนไปด้วย เพื่อแสดงหลักฐานว่าเรามีค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูง เช่น บิลค่าประกัน บิลผ่อนบ้าน ผ่อนรถ บิลค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์ ...และอื่นๆ ถ้ามีลูก บิลค่าเทอมลูก และ สำเนาสูจิบัตรลูก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น