เมื่องานที่ทำ กับ ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไม่ตรงกัน
ากหนังสือ How Love the Job You hate.
ผู้เขียนพบ Bob ตอนที่เขามาเป็นเพื่อนลูกชายในการสัมมนาเพื่อเตรียมตัวสอบเข้าทำงานในหน่วยงานของรัฐ โดยหวังว่าลูกชายจะได้งาที่มั่นคงUละรายได้ดีเหมือนตัวเขา เมื่อหัวข้อการถกเถึยงเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคลิกภาพ เขาได้เล่าเรื่องส่วนตัวของเขาให้คนในกลุ่มฟัง
ในช่วงปี 60 บ๊อบต้องต่อสู้ดิ้นราหาเงินเลี้ยงครอบครัวขนาดใหญ่ เส้นทางชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเมื่อทางการเรียกตัวให้ไปทดลองงานในตำแหน่งช่างประปา หลังจากผ่านช่วงทดลองงาน เขาได้รับการบรรจุโดยได้ค่าแรงเพิ่มเป็นเท่าตัวจากที่เคยได้มาก่อน พร้อมกับสิทธิ์การลาป่วยและพักร้อนอย่างที่เคยอยุ่แต่ในความฝัน เพียงไม่กี่เดือน หลังจากภรรยาคลอดลุกสาวคนสุดท้อง เขาก็สามารถซ์้อบ้านหลังใหญ่สำหรับครอบครัวที่ประกอบด้วยภรรยากับลุก 8 คน
บ๊อบยังเป็นนักดนตรีอีกด้วย นี่คือสิ่งที่เขาถวิลหาโดยแท้ เขามีความสุขกับการเล่นดนตรีต่อหน้าคนดูเยอะๆ และการเขียนเพลงร่วมกับเพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย
การที่ได้รู้ว่าอาชีพช่างประปามีผลทำให้เขาเกิดความเหงาแลเบื่อหน่ายกลายเป็นเรื่องที่หลายคนประหลาดใจ เพาะไม่ว่าจะมองในมุมใด งานก็คืองาน ลูกของเขาที่เห็นพ่อดื่มสุราและใช้กำลังกับแม่มาตลอด ไม่เคยคิดว่านิสัยไม่ดีของพ่อจะเกี่ยวข้องอะไรกับความไม่พอใจในงาน แต่คนรุ่นเขามีสำนึกอย่างหนึ่งคือ ต้องพยายามหางานดีๆทำ และหาเลี้ยงครอบครัวให้ได้
ปกติบ๊อบเป็นคนนิ่งเฉยต่อสิ้งเร้าภายนอก แต่การที่งานมาแย่งเวลาพลังงานไปจากชีวิตของเขาไปจากดนตรีที่เขารักนั้น ทำให้เขารู้สึกโกรธมาก เขาเป็นคนประเภทบุคคลสาธารณะ ทำงานหนักเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น อาชีพช่างประปามีความสำคัญอย่างยิ่ง ต้องเป็นช่างฝีมือที่มีความชำนาญสูง เสมือนอัศวินขี่ม้าขาวที่มาแก้ปัญหาให้แก่คนทั่วไป แต่แทบไม่ได้ยินเสียงปรบมือจากการที่เขาสามารถแก้ไขชักโครกให้ใช้งานได้ตามปกติ
ผู้เขียนได้ชี้ให้บ๊อบเห็นว่าเขาเป็นคนที่มีบุคคลิกชอบอยู่กับผู้คน แต่ลักษณะงานของเขาต้องทำงานตามลำพัง เขาจึงรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว สรุปแล้วคืออุปนิสัยเขาไม่เหมาะกับงานอาชีพนี้เลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น