คอนโดเก่า จากผู้เช่า เป็นผู้จัดการนิติ ตอนที่ ๔
คอนโดเก่า จากผู้เช่า
เป็นผู้จัดการนิติ ตอนที่ ๔
เมื่อมีกำหนดการเลือกตั้งใหม่
เราก็ทำที่ใต้ถุนคอนโดนั้นเอง โดยที่ท่านประธานและผู้จัดการได้ทำการออกจดหมายเรียกลุกบ้าน
(ก็เจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารชุดในคอนโดนั่นแหละ) ต้องมีการส่งแบบจดหมายลงทะเบียน
โดยการไปคัดลอกที่อยู่มาจากกรมที่ดิน
และให้เจ้าของห้องที่อาศัยอยู่ลงชื่อรับเอกสารเมื่อมีพนักงานนิติฯเป็นคนเอาเอกสารไปส่งและให้เซนต์ชื่อทันที ที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อป้องกันคนหัวหมอ บอกว่า
ไม่ได้รับเอกสาร แล้วการประชุมจะเป็นโมฆะ ไม่มีผลตามกฏหมายได้
เพื่อป้องกันป้าแต๋วไม่ให้กลับมาเป็นผู้จัดการนิติอีก
ทางคณะกรรมการเลยออกกฏ ว่า ผู้จัดการต้องเป็นเจ้าของห้องเท่านั้น
และไม่ต้องคดีความ จริงๆแล้วอันนี้กรรมการจะแก้ระเบียบคอนโดตามอำเภอใจไมได้
ต้องแก้ตามมติของที่ประชุมเจ้าของร่วม
กรรมการชุดนี้ลาออกทั้งหมด แต่คนที่ไม่อยากให้ป้าแต๋วเข้ามาก็ฟอร์มทีม
รวมตัวกัน ขอคะแนนเสียงกัน
ฝ่ายป้าแต๋วก็มิได้นิ่งนอนใจ
ปล่อยข่าวผ่านทางเจ้าของห้อง ซึ่งก็คือร้านทำผม
สร้างกระแสว่าอีกฝ่ายสูบเงินกองกลางไปจนหมด
สมรภูมินี้สู้กันมันหยดเลยทีเดียว
และแล้ววันเลือกตั้งก็มาถึง เรามีนัดกันวันอาทิตย์ใต้ถุนคอนโด นัดกัน 9 โมงเช้าแต่กว่าจะครบองค์ประชุมก็ปาเข้าไป
10 โมงครึ่ง ตามกฏหมายต้องได้ 25% ของจำนวนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด
คือคิดอัตราส่วนเป็นตารางเมตร เช่น
ทั้งหมดมี 100 ตารางเมตร ห้องเล็กห้องใหญ่มาประชุมรวมกันต้องได้ 25
ตารางเมตร
ไม่อย่างนั้นสภาล่ม องค์ประชุมไม่ครบ
เมื่อได้องค์ประชุมแล้ว มีทั้งแบบมอบฉันทะมา
ซึ่งก็คนหนึ่งจะรับมอบได้ไม่เกิน 3 ห้อง
ลงทะเบียนกันเสร็จสรรพ ที่ประชุมต้องทำการเลือกประธานในที่ประชุมโดยลุกบ้านทุกคน
ณ ที่ประชุมนั้น ทำการเลือกขึ้นมาเพื่อดำเนินการประชุมตามวาระ ที่ประชุมเลือก คุณหมอน่ารัก
ซึ่งเป็นสัตวแพทย์ขี้นเป็นประธานในที่ประชุม
ในวาระแรก
ก็ให้ชี้แจงผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ผู้จัดการคนก่อนคือทั่นประธานก็ไม่สามารถชี้แจงได้
แกให้เหตุผลว่า บัญชีทำไม่ด้
เพราะป้าแต๋วผู้จัดการคนก่อนแกเอาเอกสารรายรับรายจ่ายไป ไม่สามารถตั้งงบได้
ลูกบ้านก็มีการโห่ด่ากัน แกก็ตอบโต้ เป็นอย่างนี้ประมาณชั่วโมง
นี่แค่วาระแรกก็ปาเข้าไป ๑๑ โมงแล้ว
วาระถัดไป ก็เป็นการเลือกคณะกรรมการ
ซึ่งตามกฏหมาย ต้องมีอย่างต่ำ ๓ คน แต่ไม่เกิน ๙ คน ลูกบ้านทั้งสองฝ่ายก็ส่งคนมาลง
เพื่อรับการเลือกตั้ง แต่ก็ลงกันไม่ครบ ๙ คนหรอกนะ ได้กรรมการแค่ ๕ คนเอง มีผมเป็นหนึ่งในนั้นด้วย
ที่ลงเพราะตอนนั้นไฟแรงคิดว่าเราน่าจะเปลี่ยนสภาพคอนโดเก่าเน่าหนอนแห่งนี้ให้เป็นคอนโดที่น่าอยู่ได้
ถัดมาก็ถึงวาระสำคัญที่ทุกคนรอคอย
คือ วาระการเลือกตั้งผู้จัดการ ตื่นเต้นไม่แพ้เลือกประธานาธิบดีเลยแหละ
งานนี้ป้าแต๋วจัดคะแนนเสียงจัดตั้งมาเต็ม
อีกฝ่ายก็จัดมาเต็มเหมือนกัน โดยเฉพาะนายสุบินซึ่งมีห้องในมือไม่ต่ำกว่า ๑๐
ห้อง
ก่อนจะไปต่อขอเล่าถึงป้าแต๋วซักนิดหน่อย
แกเป็นอดีตผู้จัดการนิติบุคคลและพยายามหวนกลับมามีอำนาจอีกครั้งหลังจากโดนปฏิวัติไปคราวที่แล้ว
เดิมทีคอนโดแห่งนี้สร้างเสร็จในปี
๒๕๓๗ โดยมีหุ้นส่วนช่วยกันสร้างช่วยกันขาย ป้าแต๋วและพี่มินนี่
ได้เข้ามาทำงานนิติบุคคล เป็นพนักงาน โดยทั้งคุ่เป็นคู่สะใภ้กัน
และสามีของพี่มินนี้ตั้งบริษัทจัดการนิติบุคคล
โดยตัวสามีแกเป็นผุ้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด
ทำกันไป ทำกันมา ปรากฏว่า
มีเหตุการณ์ทุจริตเกิดขึ้นทำให้พี่มินนี่และสามีโดนลูกบ้านโหวตออกและระเห็จออกไปก่อนที่เรื่องจะแดงขึ้นมา โดยมีแพะรับบาปคือ น้องเก้งพนักงานธุรการ
ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดเรื่องขึ้น พี่มินนี่ได้เขี่ยป้าแต๋วกระเด็นออกไปล่วงหน้าแล้ว
เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นลูกบ้านเลยลงชื่อกันเรียกประชุมด่วน
พร้อมกับไปเชิญป้าแต๋วกลับมาทำหน้าที่ ผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด
โดยแกก็หนีบลุกน้องคู่บารมีแกเข้ามาด้วย
เมื่อป้าแต้วมาทำงาน
แกสามารถสร้างฐานะจากคนนั่งรถเมลล์มาทำงาน ๔ ปีผ่านไป เธอก็มีวีออสป้ายแดง
พร้อมบ้านเดี่ยวหนึ่งหลัง ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่า
๑
ป้ารับเป็นนายหน้าจัดการเรื่องห้องเช่า
เมื่อมีคนมาฝากให้เช่าห้อง
ตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี
๒๕๔๐ ซึ่งไม่นานหลังจากคอนโดสร้างเสร็จ
มีคนซื้อห้องเพื่อเก็งกำไรมากมายและเมื่อขายต่อไม่ออกก็ปล่อยให้ธนาคารยึด มีนายทุนเข้าไปประมูลมาได้ถูกๆ ห้อง ๓๐ ตารางเมตร ได้ไปในราคา ๒๕๐,๐๐๐ ห้อง ๔๐
ตารางเมตร ราคา ๓๕๐,๐๐๐ แล้วนำมาตกแต่งปล่อยให้เช่า บางรายก็มีกันเป็น ๑๐ ห้องเลยทีเดียว
เพราะปล่อยเช่าไม่ยาก เนื่องด้วยอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า และต้นสายรถตู้เข้าเมือง
ไปไหนมาไหนสะดวก
มีการตกลงกันระหว่างป้ากับเจ้าของว่าจะแบ่งค่าเช่าเดือนแรกให้กับป้าเพื่อเป็นค่าจัดการ
โดยป้าเป็นคนรวยรวมค่าเช่าไปให้เจ้าของ
ซึ่งก็ทำให้เกิดช่องว่างในการทุจริตได้
บางทีหรือหลายๆที ป้าจะกันไม่ให้คนเช่ากับเจ้าของเจอกัน หรือติดต่อกันได้
เมื่อครบเดือน ลูกบ้านก็เอาเงินมาจ่ายไว้ที่นิติบุคคล (สำนักงานนิติบุคคล๗
มันจะมีกรณีที่ลูกบ้านยังไม่ได้ย้ายออก แต่ป้าไปบอกเจ้าของว่า ย้ายไปแล้ว ป้าก็เก็บค่าเช่าต่อไปซักเดือนสองเดือน ชิวๆ
หรือกรณีที่ไปแจ้งเจ้าของห้องว่าห้องว่างไม่มีคนเช่า
แต่จริงๆแล้วมีคนมาเช่าได้สองเดือนแล้ว เป็นต้น
๒
การซื้อขายห้อง โดยบวกราคาเพิ่ม
ปรกติจะมีคนมาฝากให้ป้าขายห้องเพราะว่าแกเป็นนิติ
เช่น ห้อง ๓๐ ตารางเมตร เจ้าของอยากได้ ๕ แสน แต่ไปบอกขาย ๕ แสน ๗ เผื่อต่อ ๕ แสน ๕ ป้าก็ปล่อยเลย ได้กำไรเนาะๆ ๕
หมื่น ปีนึงทำซักสิบห้องก็สบายแล้ว
๓
การซ่อมแซมห้อง หรือ ซ่อมแซมคอนโด
ป้าก็จะหาผู้รับเหมาที่ป้าสามารถกินหัวคิวได้เบาๆ
มาทำการซ่อมแซม ซ่อมแล้วซ่อมอีก แก้ไม่หาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหา น้ำรั่ว
จากดาดฟ้า และน้ำรั่วจากห้องข้างบนลงล่าง
แทรกเรื่องป้าแต๋วมาเสียยาว
กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ
วาระเลือกผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด ป้าแต๋วก็ได้คะแนนเสียงนำโด่ง แต่อนิจจา
มันไม่ถึง ๒๕ % ของจำนวนกรรมสิทธิ์รวมทั้งหมด เลยต้องให้คณะกรรมการทั้ง ๕
คนทำการประชุมเพื่อเลือกผู้จัดการรักษาการกึ่งถาวร
ทั้ง ๕
คนมีดังนี้
๑ ผมเองผู้เล่า ๒
นายสุบิน คู่แค้นฝังหุ่นป้าแต๋ว
คนนี้มีห้องกว่าสิบห้องในมือ ๓ พี่มินนี่ return (แกแอบมาซื้อห้องไว้เพื่อได้สิทธิ์เข้ามาโหวตและเป็นกรรมการ
จุดประสงค์หลักคือตีกัน ป้าแต๋ว) ๔ พี่เกด เจ้าของร้านเสริมสวย
และเป็นลุกหนี้ป้าแต๋วด้วยอีกฐานะหนึ่ง
ทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่มีใครยอมเป็นผู้จัดการ หวยเลยมาออกที่ผม ตอนนั้น ไม่ได้คิดอะไร
คิดว่าอาสาเข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาตึก (ดูดีไปไหมเนี่ย)
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น