แนวทางการไปศาล
1. เลื่อนนัดศาลเพื่อไปเจรจา Hair-Cut
กับเจ้าหนี้ต่อ (เป็นการเลื่อนนัดปากเปล่าด้วยตัวจำเลยเอง จะเลื่อนได้
ประมาณ 1-2 เดือน เต็มที่ไม่เกิน 3 เดือน)
2. ยื่นคำให้การเพื่อสู้คดี โดยเฉพาะถ้ามีประเด็นเรื่องหมดอายุความ หรือดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด(สามารถไปสวนลุม ปรึกษาคุณอา ที่ปรึกษาของชมรมหนี้ โดยท่านจะให้คำปรึกษาที่สวนลุมทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่าย)
3. ทำประนอมยอมความหน้าศาล (มีเจ้าหนี้ที่ฟ้อง หรือมีโอกาสจะฟ้อง น้อยราย และมั่นใจว่าสามารถจ่ายได้ตลอดรอดฝั่ง)
4. ให้ศาลท่านพิพากษาเลย หลังจากคุณได้รับคำพิพากษาแล้ว คุณจะ
4.1 หักคอจ่าย (เจรจากับโจทก์ไม่ลงตัว แต่ก็ฝืนที่ะจ่ายให้เจ้าหนี้เข้าไป โดยยอดที่ชำระ ต้องชำระภายใน 15 วันหลังจากได้รับคำพิพากษา และเป็นยอดที่สมน้ำสมเนื้อ เมื่อคุณได้คำพิพากษา ผมจะช่วยคำนวณให้คร่าวๆ แต่วิธีนี้ไม่รับประกันว่าโจทก์จะไม่ไปอายัดเงินเดือนต่อหรือไม่ - เป็นวิธีที่ต้องวัดดวงเอา)
4.2 เจรจากับโจทก์เพื่อขอจ่ายแบบผ่อนชำระ xx งวดๆ ละ xxxx บาท (โจทก์จะยื่นข้อเสนอให้ผ่อนเท่ากันเป็นงวดๆ หรือเป็นขั้นบันได อาจจะปลอดดอกเบี้ย หรือมีดอกเบี้ยก็จะไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี)
4.3 รอให้โจทก์ไปทำเรื่องให้กรมบังคับคดีอายัดเงินเดือน อายัดบัญชีเงินฝาก สืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ (การอายัดเงินเดือนจะทำได้ทีละเจ้าหนี้ๆ ที่ฟ้องทีหลัง ต้องรอจนกว่าเจ้าแรกได้รับชำระจนครบ หรืออาจไปสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์แทนเลย และข้าราชการจะไม่โดนอายัดเงินเดือน)
ขอนำแนวทางการไปศาลของคุณเก่ง Familyman ที่แนะนำไว้ ดังนี้ครับ
เมื่อได้รับหมายศาลแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง
1.ให้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆในหมายศาล ดังนี้
- ดูว่าจะฟ้องที่ศาลไหน กำหนดวันขึ้นศาลเมื่อไร จะได้จัดตารางได้ถูกต้อง หากจำเป็นต้องลาล่วงหน้าจะได้แจ้งหัวหน้าไว้ก่อน
- ดูรายละเอียดเกี่ยวกับยอดหนี้ของคุณ เช่น ยอดตอนที่คุณหยุดจ่ายเท่าไหร่ และยอดที่ทางเจ้าหนี้ยื่นฟ้องว่าเป็นยอดทั้งหมดเท่าไหร่ เงินต้นเท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไหร่
- หากเจ้าหนี้เค้าฟ้องศาลพื้นที่ที่ไม่ใช่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของคุณ ก็ยกประเด็นนี้ขึ้นสู้ (เนื่องจากคดีผู้บริโภคต้องฟ้องพื้นที่ที่จำเลยมีทะเบียนบ้านอยู่เท่านั้น)
2.ตรวจสอบดูว่าทางเจ้าหนี้ฟ้องเกินอายุความฟ้องหรือไม่ โดย บัตรเครดิตอายุความฟ้อง 2 ปี ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลมีอายุความฟ้อง 5 ปี นับจากวันที่คุณผิดนัดชำระครั้งแรก.... หากเกินอายุความก็ยกประเด็นนี้ขึ้นสู้ หรือถ้าเกิดมีผีหยอดเงินเข้าไปเพื่อต่ออายุความให้คุณ ทั้งๆที่กำลังจะหมดอายุความแล้ว แบบนี้ก็สู้เหมือนกันครับ (แต่จะต้องทำอย่างไรไปหาอ่านในกระทู้เก่าเอง)
3.พิจารณาตัวคุณเองในเรื่องต่างๆ ดังนี้
-ว่ามีเงินก้อนในมือหรือไม่ จำนวนเท่าไหร่
-หากไม่มีเงินก้อนในมือมีความสามารถในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนมากน้อย
-มีหนี้ที่ได้รับหมายศาลมากน้อยเท่าไหร่ หนี้ที่ฟ้องแล้วอยู่ในระหว่างขั้นตอนใดบ้าง
-ในอนาคตอันใกล้จะได้รับเงินก้อนเข้ามา เช่น โบนัส หรือไม่ จำนวนเท่าไหร่
4.พิจารณาว่าทางเลือกต่างๆ และกำหนดจุดยืนที่เหมาะสมกับตัวคุณ โดยมีทางเลือกต่างๆดังนี้
4.1ไปเพื่อเจรจาหน้าศาล ขอ Haircut ปิดบัญชี
การไปเจรจา Haircut หน้าศาล เมื่อคุณไปศาล ทนายโจทก์จะเข้ามาพบคุณเพื่อเสนอเงื่อนไขของทางโจทก์ว่ามีอะไรบ้าง คุณก็สามารถเจรจาเพื่อขอส่วนลดปิดบัญชีได้ ในการเจรจานั้นบางทีก็สามารถเจรจากับทนายโจทก์ได้เลย แต่บางทีหากทนายโจทก์ไม่ได้รับมอบอำนาจในการเจรจากับลูกหนี้มา ทนายโจทก์ก็จะให้เบอร์ติดต่อเพื่อให้คุณโทรติดต่อไปเจรจาตอนนั้น หากได้ส่วนลดที่คุณต้องการ และเงินก้อนในมือพร้อมคุณก็สามารถทำการ Haircut ได้ กรณีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีเงินก้อนในมือพร้อมเท่านั้น
4.2 ไปเพื่อเจรจาหน้าศาลผ่อนชำระเป็นงวดๆ
กรณีนี้จะคล้ายกับกรณี 4.1 เพียงแต่กรณีนี้คุณไม่มีเงินก้อนในมือ คุณก็สามารถเจรจาขอผ่อนชำระได้ หากข้อเสนอที่ฝ่ายโจทก์เสนอมา คุณคิดว่าคุณสามารถผ่อนชำระได้ คุณก็สามารถทำยอมหน้าศาลได้ กรณีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีเงินเหลือสำหรับใช้หนี้ในแต่ละเดือนมากพอใน ระดับนึง และมีหนี้ที่ทยอยฟ้องไม่กระชั้นชิดกัน แต่กรณีนี้มีข้อเสียคือ หากคุณทำยอมหน้าศาลแล้ว และต่อไปคุณเกิดปัญหาด้านการเงินจนผ่อนไม่ไหว เจ้าหนี้เค้าสามารถร้องต่อศาลขอบังคับคดีได้เลย โดยที่ไม่ต้องทำเรื่องฟ้องอีกครั้ง
4.3ไปเพื่อขอเลื่อนนัดศาล
การไปขอเลื่อนนัดพิจารณา คุณสามารถทำได้โดยไปศาลและแจ้งต่อศาลว่าขอเลื่อนพิจารณาคดี ซึ่งการขอเลื่อนคุณต้องเตรียมเหตุผลไปให้ดี เช่นคุณแจ้งต่อศาลว่าขอเลื่อนเพื่อสู้คดี ศาลท่านจะถามคุณว่าคุณจะสู้ในประเด็นอะไร ดังนั้นคุณต้องทำการบ้านไปพอสมควร แต่ผมแนะนำว่าควรจะใช้เหตุผลว่าขอเลื่อนเพื่อไปเจรจาต่อรองกับโจทก์อีกครั้ง นึงจะดีกว่า ส่วนศาลท่านจะเลื่อนนัดให้คุณมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับศาลแต่ละพื้นที่ หากเป็นศาลพื้นที่ที่มีคดีเยอะคุณก็อาจได้เลื่อนนัดไปได้นาน มีเพื่อนคนนึงในเวปสามารถขอเลื่อนนัดได้เกือบ 10 เดือนเลยครับ แต่กรณีของผมขึ้นศาลแขวงธนบุรี ศาลท่านจะให้เลื่อนนัดได้ประมาณ 2 เดือน เมื่อศาลท่านเลื่อนนัดให้คุณ คุณก็สามารถเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ได้ หาก Haircut ได้ก็ Haircut ไป แต่ถ้า Haircut ไม่ได้จริงๆ เมื่อถึงกำหนดนัดศาลอีกครั้ง และคุณต้องการจะสู้คดี คุณก็สามารถสู้คดีได้ ข้อดีของกรณีนี้คือคุณสามารถยืดเวลาออกไปได้ เหมาะสำหรับคนที่เก็บเงินใกล้ที่จะ Haircut ได้ หรือในอนาคตอันใกล้จะมีเงินก้อน เช่น โบนัสเข้ามา
ป.ล.ปัจจุบันนี้เนื่องจากการฟ้องร้องคดีบัตรเครดิตและสินเชื่อ เปลี่ยนจากใช้ วิ.แพ่งมาเป็น วิ.ผู้บริโภค ดังนั้นการขอเลื่อนนัดศาลจะขอเลื่อนไม่ได้นานเหมือนสมัยก่อน
4.4ไปเพื่อสู้คดี
การสู้คดีนั้นสามารถไปยื่นคำให้การด้วยวาจา หรือโดยลายลักษณ์อักษร ก็ได้ แต่แนะนำว่าควรยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร และควรจะให้ทนายหรือผู้รู้เป็นผู้ร่างคำให้การ คุณไม่ควรที่จะเอาคำให้การสู้คดีของผู้อื่นมาดัดแปลง เนื่องจากว่าคดีต่างกัน ประเด็นต่อสู้ทางกฎหมายก็ต่างกัน การสู้คดีมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นคุณต้องดูก่อนว่าคดีของคุณเป็นคดีอะไร มีประเด็นที่สามารถต่อสู้ได้หรือไม่ และถ้าสู้แล้วสิ่งที่ได้กับสิ่งที่เสีย คุ้มกันหรือไม่ ข้อดีของการสู้คดีคือมูลหนี้ที่ฟ้องลดลง และคุณมีเวลาเก็บเงินเพื่อ Haircut เพิ่มขึ้น หลังจากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว คุณยังสามารถเจรจา Haircut ได้อีก แต่ข้อเสียคือ หากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว และคุณยังไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้เค้าสามารถร้องต่อศาลขอบังคับคดีได้
คดีบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะไม่ค่อยน่าสู้คดี เนื่องจากสถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยค่อนข้างถูกต้องแล้ว ถึงสู้คดีไปก็อาจได้ลดมูลหนี้ที่ฟ้องไม่มาก ซึ่งไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไป ส่วนคดีสินเชื่อส่วนบุคคลของนอนแบงก์แนะนำว่าน่าจะสู้คดีครับ โดยเฉพาะควิกแคซ
ป.ล. ถ้าต้องการสู้คดี นัดแรกที่คุณไป คุณต้องไปยื่นคำให้การสู้คดีทันที
4.5ไปเพื่อขอความเมตตาจากศาลท่าน (ไม่สู้คดี)
กรณีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่โดนเจ้าหนี้หลายๆรายฟ้องพร้อมๆกัน ไม่มีเงินก้อนในมือ คาดว่าไม่สามารถผ่อนชำระได้แน่นอน ถึงจะยืดเวลาออกไปก็ไม่ช่วยอะไรได้มาก เป็นคดีที่ไม่มีประเด็นต่อสู้ ซึ่งคิดว่าการอายัดเงินเดือนเป็นทางออกทางเดียว กรณีนี้หากคุณไม่ลำบากในการไปศาลมาก ก็ไปศาลเพื่อขอความเมตตาจากศาลขอให้ศาลท่านเมตตาตัดในส่วนของดอกเบี้ยผิดนัด ชำระหรือค่าปรับลง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เข้าสู่ขั้นตอนบังคับคดี กรณีนี้คุณต้องดูด้วยนะครับว่าคุณมีทรัพย์สินอะไรหรือไม่
*************************************************************
2. ยื่นคำให้การเพื่อสู้คดี โดยเฉพาะถ้ามีประเด็นเรื่องหมดอายุความ หรือดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด(สามารถไปสวนลุม ปรึกษาคุณอา ที่ปรึกษาของชมรมหนี้ โดยท่านจะให้คำปรึกษาที่สวนลุมทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่าย)
3. ทำประนอมยอมความหน้าศาล (มีเจ้าหนี้ที่ฟ้อง หรือมีโอกาสจะฟ้อง น้อยราย และมั่นใจว่าสามารถจ่ายได้ตลอดรอดฝั่ง)
4. ให้ศาลท่านพิพากษาเลย หลังจากคุณได้รับคำพิพากษาแล้ว คุณจะ
4.1 หักคอจ่าย (เจรจากับโจทก์ไม่ลงตัว แต่ก็ฝืนที่ะจ่ายให้เจ้าหนี้เข้าไป โดยยอดที่ชำระ ต้องชำระภายใน 15 วันหลังจากได้รับคำพิพากษา และเป็นยอดที่สมน้ำสมเนื้อ เมื่อคุณได้คำพิพากษา ผมจะช่วยคำนวณให้คร่าวๆ แต่วิธีนี้ไม่รับประกันว่าโจทก์จะไม่ไปอายัดเงินเดือนต่อหรือไม่ - เป็นวิธีที่ต้องวัดดวงเอา)
4.2 เจรจากับโจทก์เพื่อขอจ่ายแบบผ่อนชำระ xx งวดๆ ละ xxxx บาท (โจทก์จะยื่นข้อเสนอให้ผ่อนเท่ากันเป็นงวดๆ หรือเป็นขั้นบันได อาจจะปลอดดอกเบี้ย หรือมีดอกเบี้ยก็จะไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี)
4.3 รอให้โจทก์ไปทำเรื่องให้กรมบังคับคดีอายัดเงินเดือน อายัดบัญชีเงินฝาก สืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ (การอายัดเงินเดือนจะทำได้ทีละเจ้าหนี้ๆ ที่ฟ้องทีหลัง ต้องรอจนกว่าเจ้าแรกได้รับชำระจนครบ หรืออาจไปสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์แทนเลย และข้าราชการจะไม่โดนอายัดเงินเดือน)
ขอนำแนวทางการไปศาลของคุณเก่ง Familyman ที่แนะนำไว้ ดังนี้ครับ
เมื่อได้รับหมายศาลแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง
1.ให้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆในหมายศาล ดังนี้
- ดูว่าจะฟ้องที่ศาลไหน กำหนดวันขึ้นศาลเมื่อไร จะได้จัดตารางได้ถูกต้อง หากจำเป็นต้องลาล่วงหน้าจะได้แจ้งหัวหน้าไว้ก่อน
- ดูรายละเอียดเกี่ยวกับยอดหนี้ของคุณ เช่น ยอดตอนที่คุณหยุดจ่ายเท่าไหร่ และยอดที่ทางเจ้าหนี้ยื่นฟ้องว่าเป็นยอดทั้งหมดเท่าไหร่ เงินต้นเท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไหร่
- หากเจ้าหนี้เค้าฟ้องศาลพื้นที่ที่ไม่ใช่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของคุณ ก็ยกประเด็นนี้ขึ้นสู้ (เนื่องจากคดีผู้บริโภคต้องฟ้องพื้นที่ที่จำเลยมีทะเบียนบ้านอยู่เท่านั้น)
2.ตรวจสอบดูว่าทางเจ้าหนี้ฟ้องเกินอายุความฟ้องหรือไม่ โดย บัตรเครดิตอายุความฟ้อง 2 ปี ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลมีอายุความฟ้อง 5 ปี นับจากวันที่คุณผิดนัดชำระครั้งแรก.... หากเกินอายุความก็ยกประเด็นนี้ขึ้นสู้ หรือถ้าเกิดมีผีหยอดเงินเข้าไปเพื่อต่ออายุความให้คุณ ทั้งๆที่กำลังจะหมดอายุความแล้ว แบบนี้ก็สู้เหมือนกันครับ (แต่จะต้องทำอย่างไรไปหาอ่านในกระทู้เก่าเอง)
3.พิจารณาตัวคุณเองในเรื่องต่างๆ ดังนี้
-ว่ามีเงินก้อนในมือหรือไม่ จำนวนเท่าไหร่
-หากไม่มีเงินก้อนในมือมีความสามารถในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนมากน้อย
-มีหนี้ที่ได้รับหมายศาลมากน้อยเท่าไหร่ หนี้ที่ฟ้องแล้วอยู่ในระหว่างขั้นตอนใดบ้าง
-ในอนาคตอันใกล้จะได้รับเงินก้อนเข้ามา เช่น โบนัส หรือไม่ จำนวนเท่าไหร่
4.พิจารณาว่าทางเลือกต่างๆ และกำหนดจุดยืนที่เหมาะสมกับตัวคุณ โดยมีทางเลือกต่างๆดังนี้
4.1ไปเพื่อเจรจาหน้าศาล ขอ Haircut ปิดบัญชี
การไปเจรจา Haircut หน้าศาล เมื่อคุณไปศาล ทนายโจทก์จะเข้ามาพบคุณเพื่อเสนอเงื่อนไขของทางโจทก์ว่ามีอะไรบ้าง คุณก็สามารถเจรจาเพื่อขอส่วนลดปิดบัญชีได้ ในการเจรจานั้นบางทีก็สามารถเจรจากับทนายโจทก์ได้เลย แต่บางทีหากทนายโจทก์ไม่ได้รับมอบอำนาจในการเจรจากับลูกหนี้มา ทนายโจทก์ก็จะให้เบอร์ติดต่อเพื่อให้คุณโทรติดต่อไปเจรจาตอนนั้น หากได้ส่วนลดที่คุณต้องการ และเงินก้อนในมือพร้อมคุณก็สามารถทำการ Haircut ได้ กรณีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีเงินก้อนในมือพร้อมเท่านั้น
4.2 ไปเพื่อเจรจาหน้าศาลผ่อนชำระเป็นงวดๆ
กรณีนี้จะคล้ายกับกรณี 4.1 เพียงแต่กรณีนี้คุณไม่มีเงินก้อนในมือ คุณก็สามารถเจรจาขอผ่อนชำระได้ หากข้อเสนอที่ฝ่ายโจทก์เสนอมา คุณคิดว่าคุณสามารถผ่อนชำระได้ คุณก็สามารถทำยอมหน้าศาลได้ กรณีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีเงินเหลือสำหรับใช้หนี้ในแต่ละเดือนมากพอใน ระดับนึง และมีหนี้ที่ทยอยฟ้องไม่กระชั้นชิดกัน แต่กรณีนี้มีข้อเสียคือ หากคุณทำยอมหน้าศาลแล้ว และต่อไปคุณเกิดปัญหาด้านการเงินจนผ่อนไม่ไหว เจ้าหนี้เค้าสามารถร้องต่อศาลขอบังคับคดีได้เลย โดยที่ไม่ต้องทำเรื่องฟ้องอีกครั้ง
4.3ไปเพื่อขอเลื่อนนัดศาล
การไปขอเลื่อนนัดพิจารณา คุณสามารถทำได้โดยไปศาลและแจ้งต่อศาลว่าขอเลื่อนพิจารณาคดี ซึ่งการขอเลื่อนคุณต้องเตรียมเหตุผลไปให้ดี เช่นคุณแจ้งต่อศาลว่าขอเลื่อนเพื่อสู้คดี ศาลท่านจะถามคุณว่าคุณจะสู้ในประเด็นอะไร ดังนั้นคุณต้องทำการบ้านไปพอสมควร แต่ผมแนะนำว่าควรจะใช้เหตุผลว่าขอเลื่อนเพื่อไปเจรจาต่อรองกับโจทก์อีกครั้ง นึงจะดีกว่า ส่วนศาลท่านจะเลื่อนนัดให้คุณมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับศาลแต่ละพื้นที่ หากเป็นศาลพื้นที่ที่มีคดีเยอะคุณก็อาจได้เลื่อนนัดไปได้นาน มีเพื่อนคนนึงในเวปสามารถขอเลื่อนนัดได้เกือบ 10 เดือนเลยครับ แต่กรณีของผมขึ้นศาลแขวงธนบุรี ศาลท่านจะให้เลื่อนนัดได้ประมาณ 2 เดือน เมื่อศาลท่านเลื่อนนัดให้คุณ คุณก็สามารถเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ได้ หาก Haircut ได้ก็ Haircut ไป แต่ถ้า Haircut ไม่ได้จริงๆ เมื่อถึงกำหนดนัดศาลอีกครั้ง และคุณต้องการจะสู้คดี คุณก็สามารถสู้คดีได้ ข้อดีของกรณีนี้คือคุณสามารถยืดเวลาออกไปได้ เหมาะสำหรับคนที่เก็บเงินใกล้ที่จะ Haircut ได้ หรือในอนาคตอันใกล้จะมีเงินก้อน เช่น โบนัสเข้ามา
ป.ล.ปัจจุบันนี้เนื่องจากการฟ้องร้องคดีบัตรเครดิตและสินเชื่อ เปลี่ยนจากใช้ วิ.แพ่งมาเป็น วิ.ผู้บริโภค ดังนั้นการขอเลื่อนนัดศาลจะขอเลื่อนไม่ได้นานเหมือนสมัยก่อน
4.4ไปเพื่อสู้คดี
การสู้คดีนั้นสามารถไปยื่นคำให้การด้วยวาจา หรือโดยลายลักษณ์อักษร ก็ได้ แต่แนะนำว่าควรยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร และควรจะให้ทนายหรือผู้รู้เป็นผู้ร่างคำให้การ คุณไม่ควรที่จะเอาคำให้การสู้คดีของผู้อื่นมาดัดแปลง เนื่องจากว่าคดีต่างกัน ประเด็นต่อสู้ทางกฎหมายก็ต่างกัน การสู้คดีมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นคุณต้องดูก่อนว่าคดีของคุณเป็นคดีอะไร มีประเด็นที่สามารถต่อสู้ได้หรือไม่ และถ้าสู้แล้วสิ่งที่ได้กับสิ่งที่เสีย คุ้มกันหรือไม่ ข้อดีของการสู้คดีคือมูลหนี้ที่ฟ้องลดลง และคุณมีเวลาเก็บเงินเพื่อ Haircut เพิ่มขึ้น หลังจากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว คุณยังสามารถเจรจา Haircut ได้อีก แต่ข้อเสียคือ หากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว และคุณยังไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้เค้าสามารถร้องต่อศาลขอบังคับคดีได้
คดีบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะไม่ค่อยน่าสู้คดี เนื่องจากสถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยค่อนข้างถูกต้องแล้ว ถึงสู้คดีไปก็อาจได้ลดมูลหนี้ที่ฟ้องไม่มาก ซึ่งไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไป ส่วนคดีสินเชื่อส่วนบุคคลของนอนแบงก์แนะนำว่าน่าจะสู้คดีครับ โดยเฉพาะควิกแคซ
ป.ล. ถ้าต้องการสู้คดี นัดแรกที่คุณไป คุณต้องไปยื่นคำให้การสู้คดีทันที
4.5ไปเพื่อขอความเมตตาจากศาลท่าน (ไม่สู้คดี)
กรณีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่โดนเจ้าหนี้หลายๆรายฟ้องพร้อมๆกัน ไม่มีเงินก้อนในมือ คาดว่าไม่สามารถผ่อนชำระได้แน่นอน ถึงจะยืดเวลาออกไปก็ไม่ช่วยอะไรได้มาก เป็นคดีที่ไม่มีประเด็นต่อสู้ ซึ่งคิดว่าการอายัดเงินเดือนเป็นทางออกทางเดียว กรณีนี้หากคุณไม่ลำบากในการไปศาลมาก ก็ไปศาลเพื่อขอความเมตตาจากศาลขอให้ศาลท่านเมตตาตัดในส่วนของดอกเบี้ยผิดนัด ชำระหรือค่าปรับลง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เข้าสู่ขั้นตอนบังคับคดี กรณีนี้คุณต้องดูด้วยนะครับว่าคุณมีทรัพย์สินอะไรหรือไม่
*************************************************************
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น