อาชีพของคนไทยหลังเกษียณ

อาชีพของคนไทยหลังเกษียณ
------------------------------------
อายุของการเกษียณในสังคมไทย โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่อายุ 60 ปี
คนวัย 60 ยังคงแข็งแรง สมองยังคงสดใส ความจำยังดี และเป็นผู้มีไฟ อยากทำงาน จึงมีองค์กรจำนวนมากที่ต่ออายุผู้เกษียณออกไปเป็นรายบุคคล เนื่องจากบริษัทเสียดายประสบการณ์และองค์ความรู้ของเขาเหล่านั้น แต่ก็มีหลายบริษัทที่ต้องให้ผู้มีความรู้ ความสามารถ ต้องเกษียณ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นถัดไปได้ขยับขึ้น
ผู้เกษียณที่ยังมีไฟ ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถทำได้ มีประโยชน์กับประเทศ กับสังคม รวมถึงยังมีความสามารถในการหารายได้ ประกอบอาชีพ โดยอาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมา ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับอาชีพที่ทำมาตลอดหรือไม่ก็ตาม
.
อาชีพที่แนะนำไว้เพื่อหารายได้สำหรับคนวัยเกษียณ
--------------------------------------------------------------
แบบที่ 1 อาชีพที่เกี่ยวข้องกับความสามารถด้านวิชาชีพ งานที่เคยทำ
----------
เราทำงานมาทั้งชีวิต ย่อมมีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ เมื่อเรายังมีแรง มีสมองที่ยีงสดใส ก็อาจรับงานที่ปรึกษาในธุรกิจที่เคยทำงาน หรือเป็นกรรมการบริษัท คอยให้คำแนะนำผู้บริหาร โดยใช้ประสบการณ์ของเรา
เราสามารถใช้ความรู้ที่สั่งสมโดยไม่ต้องไปยุ่งกับบริษัทเดิมก็ได้ เช่น ครูที่เกษียณแล้วเขาสามารถรับจ้างสอนพิเศษเด็กๆ ในละแวกบ้าน แบบนี้ก็จะบริหารเวลาและภาระต่างๆ ได้ว่าจะเลือกรับแค่ไหนที่ไม่เหนื่อยเกินไป โดยทำให้เรามีความสุขและสร้างรายได้ให้กับตัวเอง
หลายคนที่เป็น specialist ประกอบอาชีพอิสระ อาจจะใช้ความสามารถสอนคนอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นครูเสมอไป เช่น จิตรกร ช่างภาพ ก็เปิดสอนวาดรูป อบรมถ่ายภาพ พาทัวร์ถ่ายภาพได้
สำหรับคนที่พอมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ก็ลองเปิดเพจในเฟสบุ๊คคอยให้ความรู้กับคนรุ่นใหม่ๆ ในวิชาชีพของตนเอง เช่น กฎหมาย วิทยาศาสตร์ เป็นการแบ่งปันความรู้ให้กับผู้คน เพราะคนสมัยนี้อ่านหนังสือไม่แตก คือ อ่านเกิน 5 บรรทัดแล้วจะเลิอดกำเดาไหล ขอแต่ข้อสรุป
แต่การสรุปนั้นบางทีก็ขาดที่มาที่ไป ที่จะทำให้เราเข้าใจในเชิงลึก และในหลายกรณีก็ต้องอาศัยผู้ใหญ่วัยที่ยังศึกษา อ่านหนังสือกันเยอะๆ มาช่วยย่อยในมุมลึกให้ง่ายต่อการเข้าใจแล้วแบ่งปันเรื่องราวให้คนอื่นได้รับรู้
ง่ายที่สุดก็ผ่านถ่ายทอดผ่านเฟซบุคที่คนยุคใหม่ใช้กันมากที่สุด ขอเพียงให้ผู้รู้ได้แบ่งปัน ได้ช่วยคนให้เข้าใจในเรื่องราวต่างๆ ก็ถือว่าดีแล้ว
การสื่อสาร ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ผ่าน Socoal Media อย่าง Facebook เป็นการฝึกทักษะการสื่อสารของเรา เนื่องจากคนเก่งจำนวนมากเขาไม่ชินกับการสื่อสารให้คนทั่วไป เพราะทำงานก็เจอแต่คนสายงานเดียวกัน เลยสื่อสารกับแบบมืออาชีพ คือคุยกัน 3 คำก็รู้เรื่อง แต่พอเจอคนนอก คุยไปเป็นวันยังไม่มีใครรู้เรื่อง
การสื่อ การอธิบาย ต้องฝึกฝน ต้องชินกับการทำให้คนอื่นๆ เข้าใจ จึงเป็นการพัฒนาสมอง ถ้าทำได้ดี ก็อาจจะมีคนมาชวนไปเป็นวิทยากรให้ความรู้ แต่ถ้าไม่มีคนมาจ้าง ก็ถือว่าแม้จะไม่ได้เงิน แต่ก็ได้ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า
.
แบบที่ 2 ความชำนาญเฉพาะด้าน
----------
เป็นเรื่องของการใช้ความชำนาญเฉพาะด้านไปหารายได้ โดยเพิ่มเติมเรื่องมุมมองธุรกิจประกอบ จะทำให้กิจกรรมหารายได้หลังเกษียณของเราสนุก และเป็นจริงมากขึ้น เช่น …
สังคมปัจจุบันครอบครัวมีขนาดเล็กลงไม่ค่อยทำอาหารเอง ใช้วิธีซื้อ แต่คนรุ่นก่อน กลุ่ม Gen X ทำกับข้าวเก่ง กินข้าวบ้านมากกว่าไปกินข้างนอก คนรุ่นใหม่อยากกินข้าวบ้านอร่อยๆ แต่ทำไม่เป็น ... นี่คือช่องทางให้วัยเกษียณสามารถทำอาหารขายในหมู่บ้านหรือในคอนโดได้
ถ้าในบริเวณที่พักของเรามีคนทำงานบริษัทที่ไม่ค่อยอยู่บ้านช่วงกลางวัน ก็ทำขายเสาร์อาทิตย์ในวันที่เขาอยู่บ้าน หรือทำเป็นข้าวกล่อง ผูกปิ่นโต ส่งทุกเย็น มีรายการอาหารกำหนดไว้เลย วันละ 3-4 อย่าง ให้เลือก แล้วก็ส่งในหมู่บ้าน คิดราคาไม่แพง ถ้าเรามีฝีมือ ทำอร่อย สะอาด ก็จะหาลูกค้าได้ไม่ยาก เพราะใครๆ ก็ชอบของอร่อย
อาหารที่คนยุคนี้นิยมจะเน้นเรื่องสุขภาพ กินหวานน้อยลง กินมันน้อยลง อาหารที่ถูกจริต คลีนฟู้ด จะขายง่ายขึ้น
หรือแทนที่จะทำอาหารขาย ก็เปิดคอร์สสอนทำอาหารวันหยุด วันอาทิตย์ คนรุ่นใหม่จำนวนมากทำไม่เป็นแต่ไม่ใช่ไม่อยากทำ เอาความเก๋าของเราสอนเขา คิดถูกๆ เอาค่าแรงนิดๆ หน่อยๆ แต่ทำให้เราสนุกไปด้วย
นอกจากนี้ ผู้เกษียณยังอาจมีอาชีพที่เหมาะสมกับเราและลูกค้าได้ เช่น สอนหนังสือเด็กเล็ก (ต้องเช็คกระทรวงศึกษาไทยก่อนว่าเปิดกว้างหรือยัง เพราะนี่คืออาชีพฮิตในประเทศเจริญแล้ว) ดูแลสุขภาพคนชรา (เพราะเรายังไม่ชรา ยังมีแรง และมีความเข้าใจโลก เข้าใจคน หรือรับฝากสัตว์เลี้ยง ฯลฯ
อีกอาชีพที่น่าสนใจคือปลูกต้นไม้ ไม้ดอก จัดสวนระเบียงคอนโด (ถ้าจัดสวนในบ้านใหญ่ๆ ในคฤหาสน์ อาจจะเกินกำลังกายในวัยเกษียณ)
.
แบบที่ 3 หารายได้จากเงินเก็บเงินออมที่มีอยู่
----------
ทุกคนสามารถทำได้และควรทำ อย่างน้อยๆ ให้ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้อ อาจจะซื้อกองทุนรวมก็ได้ หรือสำหรับคนที่มีความสามารถด้านการลงทุน ก็อาจจะนำเงินบางส่วนมาลงทุนเองในหุ้น โดยกันสัดส่วนให้ดีว่า ส่วนนี้เราเสี่ยงได้ อย่าเอาทั้งหมดมาลงทุนตรง แม้จะเก่งแค่ไหนก็ตาม
หรือบางคนบอกว่าไม่เอา ไม่ชอบเล่นหุ้น ก็อาจจะไปลงทุนในสิ่งที่ตนเองถนัด บางคนเก่งด้านจัดการ ก็อาจจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า คอยเก็บค่าห้องพัก รายวัน รายเดือน ถ้าบ้านเราอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ถนนข้าวสาร ลองปรับบ้านบางส่วน แยกสัดส่วนให้ชัด กันบางชั้นเป็นห้องพักให้ต่างชาติเช่าก็ได้
.
คนทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง วันที่เกษียณ เราก็ยังเป็นเราอยู่ ยังสามารถใช้คุณค่า ใช้ความรู้ความสามารถ ทำอะไรให้สังคม ให้ครอบครัวได้ นอกจากนี้ ยังสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ จึงควรทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ดีกว่าจะหายใจทิ้งไปวันๆ จนเป็นภาระลูกหลานหรือสังคม
จะว่าไปแล้ว การเกษียณก็คือการหลุดพ้นจากภาระจำเจที่เราเลือกไม่ได้ เพราะเรามีอิสรภาพ และมีโอกาสในการแสวงหาสิ่งที่ใช่ของตนเองเสียที โดยไม่ต้องกังวลใจว่าเมื่อไหร่นายเราจะโทรมาหา จะ Line มาด่า
ขอให้ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า และขอให้มีความสุขกับอิสรภาพในสิ่งที่เลือกได้
.
เสกสรร โตวิวัฒน์ / วรวรรณ ธาราภูมิ ... กองทุนบัวหลวง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์จริงคนขึ้นศาลคดี Easybuy

ประสบการณ์ไปศาลคดี บัตรเครดิต UOB

แนวทางรับมือเมื่อได้รับหมายศาลแบบบ้านๆ โดยคุณแก้วจ๋า ชมรมหนี้บัตรเครดิต