บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2013

หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือ​นและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?

รูปภาพ
บทความนี้ ผมไม่ได้แนะนำให้ใครทำตามนะครับ... ผมแค่เข้ามาเล่า“ ข้อกฏหมาย ”บางอย่างให้ฟังเฉยๆ ถ้าลูกหนี้ หรือจำเลย เมื่อถูกศาลพิพากษาให้ชดใช้หนี้ตามหมายฟ้องแล้ว ลูกหนี้หรือจำเลย ไม่ยอมใช้หนี้ตามคำสั่งของศาล ก็จะเข้าสู่กระบวนการที่ทางเจ้าหนี้ จะต้องส่งเรื่องให้ "กรมบังคับคดี" ทำการอายัดเงินเดือน หรืออายัดทรัพย์สินต่อไป แล้วถ้า ลูกหนี้หรือจำเลย ไม่มีทรัพย์สินใดๆให้อายัดหรือยึด ทางเจ้าหนี้และกรมบังคับคดี ก็จะเหลือเพียงแค่ช่องทางเดียวเท่านั้น ก็คือการ "อายัดเงินเดือน" ของลูกหนี้ แต่การที่จะอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้ ลูกหนี้จะต้องมีเงินเดือนเกินกว่า 10,000.-บาท ขึ้นไปเท่านั้น...จึงจะอายัดได้...และจะอายัดได้ไม่เกิน 30% จากเงินเดือนของลูกหนี้ด้วย...โดยไม่สนว่าลูกหนี้จะมีเจ้าหนี้กี่ราย (จะมีเจ้าหนี้เป็น สิบราย , ร้อยราย , หรือพันราย ก็ตาม) เพราะกฏหมายเขาเขียนคุ้มครองเอาไว้อย่างนั้น...เช่น...ถ้าลูกหนี้มีเงิน เดือน 30,000.-บาท เจ้าหนี้ก็จะอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้ประมาณ 9,000.-บาท (คำนวนจาก 30% ของเงินเดือนที่ 30,000-บาท)...แต่ถ้าลูกหนี้มีเงินเดือนแค่ 10,2

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สินภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)

รูปภาพ
กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สินภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้) - เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ทำการตรวจสอบสำเนาทะเบียนบ้านของลูกหนี้แล้ว ปรากฎว่าลูกหนี้เป็น “เจ้าบ้าน” จพค.จะไปยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามทะเบียนบ้านหลังนั้นๆ หากไปแล้วพบว่าบ้านหลังนั้น ถูกปิดประตู หรือถูก Lock อยู่ จพค.สามารถใช้อำนาจในการเปิดบ้าน เพื่อทำการยึดทรัพย์ตามที่เจ้าหนี้นำชี้ได้ เนื่องจาก กฏหมาย ระบุไว้ว่า หากผู้ใดที่มีฐานะเป็น“เจ้าบ้าน”ก็ให้สันนิษฐานว่าทรัพย์สินใดๆที่อยู่ใน บ้านของเจ้าบ้าน เป็นทรัพย์ของเจ้าบ้านเอาไว้ก่อนเป็นหลัก ดังนั้นหากลูกหนี้ตามคำพิพากษามีฐานะเป็น“เจ้าบ้าน”หลังใด ก็สามารถยึดทรัพย์ที่อยู่ภายในบ้านหลังนั้นได้ ถึงแม้นว่าจะถูกปิดประตูอยู่ก็ตาม โดยอาศัยขั้นตอนให้เจ้าหนี้แถลงความรับผิดชอบ เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นสักขีพยาน , ตามช่างกุญแจมา ไข/งัด/หรือทุบทำลาย วัสดุที่ใช้ Lock บ้าน , มีการบันทึกภาพถ่ายหรือวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน , ลงบันทึกประจำวัน - เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ตรวจสอบสำเนาทะเบียนบ้านของลูกหนี้แล้ว ปรากฎว่าลูกหนี้เป็นแค่ “ผู้อาศัย” จพค.จะไปยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามทะเ

ประกันชีวิตสำคัญนะ สำหรับคนวัยเลข 3

คำถามสำคัญที่คนไทยวัยเลข 3 ต้องขบคิดก็คือ ครอบครัวของตนเองได้รับความคุ้มครองปกป้องอย่างเพียงพอแล้วหรือหรือไม่ ในกรณีที่คุณซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว เกิดเสียชีวิตขึ้นมา  ประกันถือเป็นหนึ่งส่วนสำคัญของการวางแผนทางการเงิน  แต่ถือเปนแนวโน้มที่ไม่ดีเมื่อการสำรวจพบว่ามีผู้คนในวัย 30 ยังมิได้ทำประกันชีวิต หรือหากทำประกันไว้บ้างแล้วแต่พวกเขายังทำไว้ไม่มากพอ ในสหรัฐอเมริกามีการอ้างอิง J.D Power & Associations สำรวจพบว่า 40% ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันยังไม่มีหรือไม่ได้ทำประกัชีวิตไว้เลย วิ่งกว่านั้น 25% ของผู้ใหญ่กลุ่มนี้ที่สมรสแล้วต้องเป็นม่ายมีอายุระหว่าง 30 -55 ปี ต่างรู้สึกว่ายังทำประกันชีวิตไว้ไม่ได้มากหรือครอบคลุมพอ ผลสำรวจนี้สะท้อนให้คในสหรัฐอเมริกาและทุกมุมโลก ต้องตระหนักว่าทุกคนต้องมีประกันชีวิต หากคนไทยที่กำลังอยู่ในวัยเลข 3 หรือจวนเจียนจะเลข 3 ห่วงใยในครอบครัวตัวเอง ควรพิจารณาทางเลือกเพื่อทำประกันชีวิตเพิ่มเติมให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเงื่อนไขกำหนดช่วงชีวิตทำประกันสามารถทำได้ และสามารถกำหนด ขอบเขตของการคุ้มครองได้เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามควรพิจารณาด้วยว่าจะส่งประกัน

เงินออมยามฉุกเฉิน สิ่งสำคัญที่ต้องมี

  ต้องมีเงินออมฉุกเฉิน ถ้าเปรียบว่าสถานะทางการเงินของทุกประเทศทั่วโลก จำเป็นต้องให้ธนาคารกลางของประเทศทำหน้าที่บริหารจัดเก็บทุนสำรองของชาติไว้ในยามฉุกเฉิน ในระดับครัวเรือนเช่นกันไม่ว่าจะเป็นครอบครัวคนไทยหรืออเมริกัน ต้องมีเงินออมฉุกเฉินไว้สำรองใช้ยามจำเป็นเสมอ แต่จากสำรวจคนอเมริกันทั่วไป พบว่ามีจำนวนมากมายที่ไม่ได้คิดถึงเงินออมเผื่อไว้ช้ามฉุกเฉินเลย โดยเฉพาะคนในวัย 30                 นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้จาก Bankrate Financial Security Index เผยผลสำรวจพบว่า 28% ของกลุ่มตัวอย่างยอมรับ ว่าไม่มีเงินออมเผื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉินเลย และผลที่ได้ชัดเจนว่ากลุ่มตัวอย่าง 49% ไม่มีเงินเก็บหรือเงินออมมากพอไว้ใช้ในยามจำเป็นได้นานถึง 3 เดือน และมีเพียง 25% ของผู้ตอบในงานสำรวจระบุว่าพวกเขาไม่มีเงินออมเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้นานถึง 6 เดือน    คุณล่ะ ถ้าหยุดไม่มีรายได้ตอนนี้คุณอยู่ได้กี่เดือน                 ผลสำรวจข้างต้นทำให้คนไทยที่ใกล้หรืออยู่ในวัยเลข 3 นำหน้า ต้องหันมามองโอกาสที่ตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มผุ้มีเงินออมฉุกเฉินยังไม่มากพอหรือไม่เพียงพอ และอาจถึงเวลาที่จะเพิ่มการออม เพื่อที่ว่าจ

เรื่องเงินทองที่ต้องทำของคนไทยวัยเลข 3

เรื่องเงินทองที่ต้องทำของคนไทยวัยเลข 3 เริ่มต้นเร็วดีกว่าเสมอ                 การออมและการลงทุนนั้นหากเริ่มต้นเร็วย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะการออมกับการลงทุนสำหรับคนไทยที่เข้าสู่วัยเริ่มต้นเลข 3 ยิ่งเข้าใจมากทำได้เร็ว ย่อมช่วยคนไทยในวัยนี้ให้มีอนาคตที่สดใส เข้าสู่วัยเกษียณเปี่ยมสุข อยู่อย่างสบายเมื่อเข้าสู่บั้นปลายของชีวิตด้วยเงินทองสะสมไว้ได้มากพอ                 แต่การเริ่มต้นออมกับการลงทุนเร็วนั้น สำคัญและต้องทำอย่างไร สำหรับผู้คนวัยเลข 3 อีกมากมายยังหลงทาง ไม่เข้าใจความมั่นคงปลอดภัยทางการเงิน และผุ้คนในวัยเลข 3 จำนวนไม่น้อยอาจหลงเพลินไปกับประสบการณ์การใช้ชีวิตการเงินต้องมีรายจ่ายไม่ขาด หรืออยากใช้อยากจ่ายจนลืมออม แถมคนไทยอายุปาเข้าเลข 3 จำนวนไม่น้อยโนทุกวันนี้ อาจแบกภาระหนี้ไว้ไม่น้อยจนทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องยาก                 จากข้อสงสัยข้างต้น ทำให้ไอเดียของไวส์ เบรด ดอทคอม ที่ว่าด้วย “5 เรื่องการเงินที่ยังไม่พร้อมของคนวัย 30 “ เป็นการตอกย้ำกระตุ้นเตือนคนไทยวัยเลข 3 ทั่วโลก เร่งปรับตัวเตรียมให้พร้อม เพื่อเป็นหนึ่งในกลุ่มคนไทยที่ยังอยู่บนเส้นทางสู่วัยเกษียณเปี

5 ก้าวสู่วัยเกษียณเปี่ยมสุข

1. วางแผนเพื่อวัยเกษียณบนแผน่กระดาษ หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ ใช้เวลาใคร่ครวญให้ดีว่า รายได้มากเท่าใดที่จำเป็นต้องหาต้องทำไว้รองรับยามตัวเองถูกปลดระวาง หรือหยุดทำงานระยะยาว  จากนั้นให้ดุว่าต้องออมสม่ำเสมอเป็นเงินเท่าไหร่ จึงจะไปถึงเป้าหมายที่วางแผนไว้ 2.  ขยันหาข้อมูลลงทุนและกลยุทธ์ทางการเงิน ช่วยทำให้สาบายใจเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ เพื่อสร้างความได้เปรียบไม่ปล่อยให้ประโยชน์ที่ควรได้จากการลดหย่อนภาษ๊ (LTF, RMF และประกันแบบบำนาญ) และสิทธิที่พึงได้จากการทำงานต้องหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย หรือผ่านเลยไปแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย 3.หาแผนออมเงินหลากหลาย ด้วยข้อมูลที่ขอมาจากสถาบันบริหารจัดการการเงิน เช่น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม หรือ บลจ ยิ่งคนทำงานมีข้อมุลแผนออมเพื่อเกษียณเหมาะสมกับสถานะการเงินของตนเองมากเท่าไหร่ อำนาจในการเพ่ิมผลผลิตการเงินของตัวเองจะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น 4. สร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย อาจลงทุนหุ้นกับตราสารหนี้บ้าง เผื่อเงินเก็บออมไว้บางส่วนไม่หยุดนิ่ง หรือเงิบหงายเมื่อตลาดเป็นตลาดขาลง แต่จะยังเป็นเงินก้อนที่สามารถเติบโตให้ผลตอบแทนชดเชยการลงทุนในส่วนอื่นๆที่ไม่ดี 5.  เตร